02 149 5555 ถึง 60

 

โรคโควิด-19 กับอาการทางผิวหนังที่ไม่ควรมองข้าม (ตอนที่ 1)

โรคโควิด-19 กับอาการทางผิวหนังที่ไม่ควรมองข้าม (ตอนที่ 1)

เรื่องของผิว... เรื่องโดย... สมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย

แม้ว่าโรคโควิด-19 จะเป็นโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินหายใจเป็นหลัก แต่ก็อาจทำให้เกิดความผิดปกติทางผิวหนังด้วย สมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทยจึงมีความเป็นห่วงประชาชนเกี่ยวกับอาการของผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีหลากหลายระบบ

อย่างไรก็ดีจากสถิติพบว่า ประมาณ 0-2-20% ของผู้ป่วยโรคโควิด-19 ทั้งหมดมีอาการผื่นทางผิวหนังร่วมด้วย

ผื่นอะไร ที่ให้สงสัยว่าเป็น COVID

รศ. พญ.ภาวิณี ฤกษ์นิมิตร อนุกรรมการประชาสัมพันธ์และงานกิจกรรมสมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากผลงานวิจัย Skin manifestations in COVID-19: The tropics experience เมื่อปี พ.ศ.2563 พบว่าสถิติผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ จำนวน 153 ราย มีอาการโรคผิวหนังร่วมด้วย 23 ราย หรือคิดเป็นสันส่วน 15% โดยอาการบ่งชี้ทางผิวหนังของผู้ป่วยที่เกิดจากเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จะแบ่งออกเป็นหลายกลุ่มอาการ เช่น เป็นผื่นผิวหนังแบบผื่นลมพิษ ผิวแดงชนิด maculopapular เป็นตุ่มน้ำที่ผิวหนัง หรือผิวหนังแตกเป็นแผลจากการขาดเลือด

ผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่มีอาการทางผิวหนังในประเทศแถบยุโรปและประเทศเอเชีย จะมีอาการทางผิวหนังแตกต่างกันอยู่บ้าง กล่าวคือ ผู้ป่วยโรคโควิด-19 ในประเทศแถบเอเชียมีอาการผื่นลมพิษ ผื่นแดงทั่วตัว หรือผื่นแบบตุ่มน้ำ ซึ่งพบในกลุ่มผู้ป่วยในประเทศแถบยุโรปเช่นกัน

แต่ผู้ป่วยโรคโควิด-19 ในประเทศแถบยุโรปจะมีอาการหนึ่งที่ไม่พบผู้ป่วยในประเทศไทย คือ มีอาการปลายมือปลายเท้าม่วงคล้ำ (ในทางการแพทย์รู้จักกันในนาม Covid Toe) อันเนื่องมาจากสภาพภูมิอากาศที่หนาวเย็น

ทั้งนี้วิธีการรักษาผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่มีอาการทางผิวหนัง แพทย์จะรักษาตามอาการ เช่น การให้ยาสตีรอยด์รักษาอาการตุ่มนูน ตุ่มคัน หรือยาแก้แพ้รักษาอาการลมพิษ เป็นต้น

สำหรับอาการทางผิวหนังที่พบในผู้ป่วยโรคโควิด-19 สามารถแยกได้เป็น 2 ประเภท คือ

1. อาการผื่นผิวหนังจากโรคโควิด-19 โดยอาการบ่งชี้ เช่น ผู้ป่วยเป็นลมพิษ ผื่นแดง ตุ้มน้ำพอง หรือมีแผลแตกบริเวณผิวหนัง

2. อาการผื่นผิวหนังจากการสวมหน้ากากอนามัยหรืออุปกรณ์ป้องกัน PPE ผู้ป่วยโรคโควิด-19 จำเป็นต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ทำให้บางรายเป็นสิวหรือผื่นแดงบริเวณใบหน้าอันเนื่องมาจากการสวมหน้ากากอนามัยเป็นระยะเวลานาน หน้ากากอนามัยไม่สะอาด หรือบางรายเกิดจากการแพ้ส่วนประกอบบางชนิดของหน้ากากอนามัย ขณะที่ยางรายมีอาการผื่นแดงตามมือจากการล้างมือบ่อยจนมือแห้งและระคายเคือง

จากข้อมูลการรักษาและการเก็บข้อมูล แม้ยังไม่พบว่ามีอาการทางผิวหนังของผู้ป่วยโรคโควิด-19 จะก่อให้เกิดอาการรุนแรงอื่นตามมาจนถึงขึ้นเสียชีวิต

หากประชาชนมีอาการเป็นไข้ หายใจไม่สะดวก จมูกไม่ได้กลิ่น หรือมีอาการผื่นผิวหนังร่วมด้วย ก็ไม่ควรนิ่งนอนใจ ควรพบแพทย์เพื่อทำการตรวจรักษาแต่เนิ่นๆ

นอกจากนี้ สิ่งที่อยากฝากแก่ประชาชนทุกคนคือ การดูแลตนเองเบื้องต้นยังเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ทุกคนห่างไกลโรคโควิด-19 ได้ ด้วยการสวบหน้ากากอนามัยและควรเปลี่ยนบ่อยๆ หรือหากเป็นหน้ากากผ้าควรซักล้างทำความสะอาดสม่ำเสมอและควรล้างมือบ่อยๆ ซึ่งหลังจากล้างมือแล้ว อาจทามอยเจอร์ไรเซอร์เพื่อสร้างความชุ่มชื่นให้แก่ผิว ก็จะทำให้ผิวหนังไม่ระคายเคืองได้

คำแนะนำในการป้องกันไม่ให้เกิดผื่นที่มือ ทำได้ดังนี้

1. เลือกผลิตภัณฑ์ที่ไม่ระคายเคือง สบู่สังเคราะห์จะดีกว่าสบู่ก้อน เพราะมีความเป็นด่างน้อยกว่า แอลกอฮอล์เจลที่มีส่วนผสมของสารให้ความชุ่มชื่น จะมีคุณสมบัติดีกว่าแอลกอฮอล์สเปรย์ แต่ทั้งคู่ฆ่าเชื้อไวรัสได้เหมือนกัน

2. ทาสารให้ความชุ่มชื่นบ่อยๆ หลังล้างมือหรือใช้แอลกอฮอล์เสมอ และทาเพิ่มเมื่อรู้สึกแห้ง พกโลชั่นหรือครีมทามือเสมอ

3. ไม่ควรล้างมือด้วยน้ำร้อน

4. ไม่จำเป็นต้องล้างมือและใช้แอลกอฮอล์พร้อมๆ กัน ในกรณีที่มือเปื้อนสิ่งสกปรกที่มองเห็นให้ล้างน้ำปกติ ส่วนแอลกอฮอล์ใช้กรณีที่มือไม้ได้เปื้อนมากและไม่สามารถหาที่ล้างมือได้

5. สวมถุงมือช่วยลดการสัมผัสได้ แต่ต้องเปลี่ยนบ่อยๆ อย่าใส่จนเหงื่อออกเปียกเกิดความอับชื้นหรือน้ำเข้าต้องเปลี่ยนทันที และไม่ควรใส่ถุงมือหลังล้างมือทันทีหรือทาแอลกอฮอล์ เพราะจะเพิ่มอัตราการระคายเคืองได้

6. ถ้าผิวหนังอักเสบ ใช้ยารักษาที่มีส่วนผสมของสตีรอยด์อ่อนๆ ได้ เช่น 0.02% Triamcinolone cream แต่ถ้าทาแล้วไม่ดีขึ้นใน 1 สัปดาห์ควรไปพบแพทย์ผิวหนัง

ผื่นที่ “มือ” ช่วง COVID

ผศ. พญ.สุวิรากร ธรรมศักดิ์ ประธานฝ่ายกิจกรรมสังคมสมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การป้องกันเชื้อไวรัสไม่ให้เข้าสู่ร่างกายนั้น “มือ” เป็นอวัยวะที่สำคัญ ที่ใช้จับสิ่งของ จับทุกสิ่งทุกอย่างแล้วมาจับหน้า จมูก ปาก ทำให้เชื้อเข้าสู่ร่างกายได้ง่าย ดังนั้น เราสามารถลดการติดเชื้อโดยการล้างมือบ่อยๆ หรือใช้แอลกอฮอล์ 70% ขึ้นไป ในการฆ่าเชื้อโรค ไม่ว่าจะเป็นเชื้อไวรัส แบคทีเรีย พยาธิ ต่างๆ

แต่การล้างมือบ่อยๆ ทำให้มือมีการระคายเคืองได้ ลักษณะเริ่มต้นเราจะเห็นผิวที่มือแห้ง แล้วเริ่มมีการแตกและเจ็บ ถ้าเป็นมากๆ จะเป็นผื่นแดง หยิบจับอะไรก็แสบ เจ็บมือไปหมด

ถ้าสังเกตให้ดีคนที่สัมผัสน้ำบ่อยๆ ไม่จำเป็นต้องโดนสบู่ ผงซักฟอกก็ทำให้มือระคายเคืองแล้ว เช่น อาชีพแม่บ้าน พยาบาล คนทำความสะอาด ทุกคนถ้าล้างมือบ่อย ทั้งสบู่หรือแอลกอฮอล์ ก็ทำให้ระคายเคืองได้

สำหรับบางคน มีการแพ้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดหรือส่วนประกอบในเจลฆ่าเชื้อโรคหรือถุงมือ จะมีอาการคัน มีผื่นแดง ตุ่มน้ำ หรือสะเก็ดลอก ซึ่งเป็นการแพ้เฉพาะบุคคล ซึ่งอาจจะต้องตรวจหาว่าแพ้อะไร จะได้หลีกเลี่ยงได้ถูก

บางคนล้างมือบ่อยๆ ทำให้มีการติดเชื้อที่จมูกเล็บ ทำให้มีอาการบวม เจ็บที่โคนเล็บ และติดเชื้อราได้🖐🖐

หมอชาวบ้าน ปีที่ 43 ฉบับที่ 507 เดือนกรกฎาคม 2564

2 September 2564

By STY/Lib

Views, 7077

 

Preset Colors