02 149 5555 ถึง 60

 

คัมภีร์ดูแลผู้ป่วยอัลไซเมอร์ เอาใจ “เขา” เพื่อเอาใจ “เรา”

คัมภีร์ดูแลผู้ป่วยอัลไซเมอร์ เอาใจ “เขา” เพื่อเอาใจ “เรา”

ในสถานการณ์ปกติ ทุกคนสามารถใช้ชีวิตประจำวัน และทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ตามที่ใจปรารถนา แต่ในช่วงเวลาที่โควิด-19 ระบาด และการใช้ชีวิตแบบ new normal เราทุกคนต่างถูกจำกัดกรอบการใช้ชีวิตให้อยู่แต่ในบ้าน

โดยเฉพาะบ้านที่มีผู้สูงอายุที่มีสภาวะสมองเสื่อมอย่างผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์ ซึ่งต้องการการดูแลเอาใจใส่เป็นพิเศษด้วยแล้ว ทำให้ผู้ที่ต้องดูแลผู้สูงอายุต้องปรับสภาพจิตใจเพื่อสร้างสมดุลระหว่างการเอาใจใส่ “เขา” และการเอาใจใส่ “เรา” ด้วย

“ศ.ดร.อรัญญา ตุ้ยคำภีร์” รองคณบดีคณะจิตวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จึงให้คำแนะนำเรื่องการดูแลผู้ป่วยอัลไซเมอร์ในช่วงโควิด-19 ระบาด ว่า ลูกหลานในบ้านเปรียบเสมือนพื้นที่เชิงบวกในฐานะ “คนรู้ใจ” ของผู้สูงอายุ การดูแลให้ผู้สูงอายุได้รับปัจจัย 4 ครบถ้วนนั้นไม่เพียงพอ

ศ.ดร.อรัญญา ตุ้ยคำภีร์

ศ.ดร.อรัญญา ตุ้ยคำภีร์ รองคณบดีคณะจิตวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

เพราะเมื่อคนเราอายุมากขึ้น มักเกิดความเจ็บป่วยทางกายหลายโรค ซึ่งไม่ส่งผลเฉพาะสุขภาพร่างกายเท่านั้น แต่ด้านจิตใจก็อาจได้รับผลกระทบ ผู้สูงอายุส่วนใหญ่ต้องการการเติมเต็มความใส่ใจห่วงใยการเป็นที่รักจากลูกหลาน

“เนื่องจากผู้สูงอายุที่ป่วยด้วยโรคอัลไซเมอร์ เซลล์สมองจะถูกทำลาย ทำให้สมองไม่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ สิ่งที่ค่อย ๆ สูญเสียไปเรื่อย ๆ เช่น ความจำระยะสั้นเสียไป, ความสามารถในการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ และการพึ่งพาตนเองลดลง ขณะเดียวกันก็จะมีมุมลบที่ชวนให้คนถอยห่างเพิ่มขึ้น เช่น อารมณ์แปรปรวน, ก้าวร้าว ครอบครัวผู้ดูแลจึงต้องคอยสังเกตความสุขของผู้สูงอายุ ผู้ใกล้ชิดต้องตระหนักรู้และเท่าทันพฤติกรรมด้านลบต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น”

ผลเช่นนี้จึงทำให้ทีมวิจัยจากคณะจิตวิทยา จุฬาฯ ลงพื้นที่พูดคุยกับผู้สูงอายุ และชุมชน ใน “โครงการจุฬาอารี” ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กระทั่งพบว่าถ้อยคำดี ๆ ที่ลูกหลานและคนรอบข้างพูดกับผู้สูงอายุเป็นสื่อสำคัญในการเชื่อมใจถึงใจ

สำหรับผู้ดูแลผู้สูงอายุที่ป่วยเป็นอัลไซเมอร์ นอกจากการเป็นสิ่งแวดล้อมที่สร้าง “ความมั่นคงทางใจ” ให้ผู้สูงอายุแล้ว ผู้ใกล้ชิดก็ต้องดูแลใจของตนเองด้วย ซึ่งสามารถทดสอบตัวเองง่าย ๆ ด้วยกิจกรรมเพิ่มสมรรถภาพความฟิตกาย และใจทั้ง 5 ข้อ อาทิ

1.เดิน และ/หรือออกกำลังกายสม่ำเสมอบ้างหรือไม่

2.รับประทานอาหารที่เหมาะกับสุขภาพใจ เน้นผัก ผลไม้ ถั่วเหลือง ลดคุกกี้ ขนมปังขาวให้น้อยลงบ้างหรือไม่

3.หายใจเอาความเครียดออกไปด้วยท้องแบบผ่อนคลาย/การผ่อนคลายกล้ามเนื้อบ้างหรือไม่

4.การรักษามิตรภาพและเครือข่ายกัลยาณมิตรบ้างหรือไม่

5.การได้อยู่ใกล้ชิดกับธรรมชาติสีเขียวบ้างหรือไม่

“ฉะนั้น หากตอบว่าใช่ทุกข้อแสดงว่าท่านมีทุนทางใจที่ดี เพราะสถานการณ์โควิด-19 อาจมีเรื่องที่น่ากังวลใจ และสะสมความเครียดอยู่บ้าง ผู้ที่มีหน้าที่ดูแลผู้ป่วยควรเตือนตัวเอง ควรลดละเลิกการได้รับข่าวสารและการใช้โซเชียล
มีเดียมากเกินไปในแต่ละวัน และจะต้องมีเวลาสำหรับสิ่งที่ต้องทำเป็นกิจวัตร ให้เวลาผ่อนคลายตัวเองบ้าง”

เพราะสุดท้ายหากเกิดความเครียด ความไม่สบายใจ “ศ.ดร.อรัญญา” ให้ลองทำตามขั้นตอนดังต่อไปนี้

1.ตระหนักรู้ – สังเกตและรับรู้ถึงความเครียดของตนเอง

2.หยุด – ไม่ต้องทำอะไรทั้งสิ้น แค่หยุดนิ่งแล้วหายใจลึก ๆ

3.ดึงตัวเองกลับมา – บอกตัวเองว่าเป็นแค่ความกังวลเป็นแค่ความคิด และความรู้สึกชั่ววูบอย่าเชื่อทุกอย่างที่ตนคิด เพราะความคิดไม่ใช่คำยืนยันหรือข้อเท็จจริง

4.ปล่อยมันไป – ปล่อยความคิดความกังวลให้ผ่านไปไม่ต้องไปตอบโต้

5.สำรวจ – อยู่กับปัจจุบัน ฝึกดูลมหายใจของตนเอง สังเกตพื้นที่ที่ยืนอยู่ มองไปรอบ ๆ ตัว จากนั้นค่อยเปลี่ยนความสนใจกลับมาสู่สิ่งที่ต้องทำต่อไป

ขณะที่ในส่วนของคำแนะนำถึงวิธีการปฏิบัติต่อผู้ป่วยอัลไซเมอร์และผู้ป่วยที่มีภาวะสมองเสื่อมในภาวะโควิด-19 ระบาด “อาจารย์นายแพทย์ยุทธชัย ลิขิตเจริญ” สาขาวิชาประสาทวิทยา ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวเสริมว่า ไม่ควรให้ผู้ป่วยออกนอกบริเวณบ้าน โดยเฉพาะผู้ป่วยที่ไม่สามารถดูแลตัวเองได้ พยายามลดจำนวนคนมาเยี่ยม ผู้ป่วยและจำนวนคนที่ดูแล หรือวางตัวคนดูแลให้เป็นคนเดิมประจำ

“เพราะถ้าอยู่ในบริเวณเดิมที่อาศัยอยู่ โอกาสที่จะติดเชื้อโควิด-19 จะน้อยกว่าการออกนอกบ้าน ซึ่งมีโอกาสได้รับเชื้อจากชุมชนภายนอก แต่ถ้าผู้ป่วยจำเป็นต้องออกนอกบ้าน ผู้ดูแล หรือญาติควรจะสวมหน้ากากอนามัย face shield หรือใส่ถุงมือให้ผู้ป่วย”

“ผู้ดูแลต้องพยายามบอกให้ผู้สูงอายุเข้าใจในความจำเป็นที่จะต้องป้องกันตัวเองในสถานการณ์เช่นนี้ ผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์ หรือผู้ป่วยที่มีภาวะสมองเสื่อมอาจจะมีพฤติกรรมแอบซ่อนสิ่งของเครื่องใช้ หรือเก็บสมบัติไว้เพราะกลัวมีคนมาขโมย ซึ่งมักจะจำไม่ได้ว่าเอาไปเก็บไว้ที่ไหน ดังนั้น ผู้ดูแลจึงควรตรวจสอบสิ่งของต่าง ๆ เพื่อนำมาทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ”

“ที่สำคัญ ผู้สูงอายุที่ป่วยเป็นอัลไซเมอร์ควรออกกำลังกายเบา ๆ ที่บ้านเป็นประจำ สำคัญที่สุดคือให้ผู้ป่วยได้ทำกิจกรรมที่เคยชอบ และอยากทำ เช่น การฟังเพลงเก่า ๆ, การเล่นกับสัตว์เลี้ยง, การเล่นกับลูกหลานในบ้านหรือผ่านวิดีโอคอลในช่วงที่โควิด-19 ระบาด ก็จะทำให้ผู้ป่วยผ่อนคลายมากขึ้น”

9 February 2564

ที่มา ประชาชาติธุรกิจ

Posted By Thongpet/kanchana/Maneewan

Views, 771

 

Preset Colors