02 149 5555 ถึง 60

 

สธ.ชงมาตรการคลายล็อคบางพท.

มื่อวันที่ 26 เม.ย. นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ได้ส่งเสนอข้อกระทรวงสาธารณสุขเกี่ยวกับมาตรการคลายล็อคดาวน์บางพื้นที่ หลังสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) มีแนวโน้มลดลง ต่อศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ว่า ข้อเสนอมาตรการในการคลายล็อคดาวน์นั้นจะดูสถานการณ์โรคโควิด-19 ทั้งภาพรวมระดับประเทศ และระดับพื้นที่

เช่น พื้นที่ที่ไม่เคยมีผู้ป่วยเลยมาตั้งแต่ต้น พื้นที่ที่ปลอดผู้ป่วยรายใหม่ 14 วัน 28 วัน เป็นต้น ก็ถือว่าเป็นกลุ่มพื้นที่สีเขียว ส่วนพื้นที่สีเหลืองจะเป็นพื้นที่ที่มีผู้ป่วยบ้างประปรายที่ยังรู้แหล่งที่มาที่ไป และพื้นที่สุดโต่งสีแดงที่มีคนไข้ต่อเนื่องเรื่อยๆ หาที่มาที่ไปไม่ได้ เช่น กรุงเทพ หรือบางจังหวัดในภาคใต้ก็ยังไม่ค่อยปลอดภัย  

 

นพ.ศุภกิจ กล่าวต่อว่า การคลายล็อคจะดูตามความจำเป็น ของกิจกรรม เช่น ผับ บาร์ สนามมวย การที่มาดูกีฬาแบบนั่งเชียร์ อันนี้ไม่ได้ แต่ถ้าเป็นกีฬาที่ต่างคนต่างเล่น เช่นกอล์ฟ แล้วดูว่ามีมาตรการที่จะสร้างความปลอดภัย ไม่ให้มีการแพร่ระบาดได้หรือไม่ เช่น แคดดี้ต้องสวมหน้ากาก มีที่ล้างมือ ลูกกอล์ฟเช็ดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อทุกวัน เป็นต้น

หรือกิจการบางประเภทจะได้รับอนุญาตให้เปิดก่อน ยกตัวอย่างร้านตัดผม ตัวร่างที่ทำไว้คือต้องมีระบบระบายอากาศ ต้องนัดหมายให้บริการ ไม่ควรนั่งรอ อุปกรณ์ต้องทำความสะอาด ผ้าคลุม ผ้าขนหนูต้องเปลี่ยนใหม่เมื่อต้องให้บริการลูกค้าคนต่อไป เป็นต้น อย่างไรก็ตามถ้าอนุญาตแล้วก็ต้องให้เวลาผู้ประกอบการต่างๆ ในการปรับตัวด้วย

 

“นี่คือสิ่งที่เราต้องช่วยกันแต่ทั้งหมดนี้สุดท้ายได้ให้อำนาจผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะประธานคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อระดับจังหวัดเป็นผู้พิจารณา ส่วนกลางจะใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน หากยังต่อ เพื่อจัดการบางเรื่องที่อยู่เหนือกฎหมาย ซึ่ง ศบค.จะมีการประชุมกันในวันที่ 27 นี้ คงมีความชัดเจนขึ้น” นพ.ศุภกิจ กล่าว   

 

รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวด้วยว่า ทั้งนี้เมื่อมีการคลายล็อคให้ประชาชนใช้ชีวิตมากขึ้น ในส่วนของสาธารณสุขจึงต้องทำงานมากขึ้น เราต้องตรวจจับ ค้นหา ตรวจแลบ และตามตะครุบผู้สัมผัสผู้ติดเชื้อให้เร็ว ซึ่งที่ผ่านมาเราถือว่าทำได้ดี ทุกจังหวัดส่งแลบได้เร็ว มีสถานที่ มีบุคลากรรักษา ซึ่งกระทรวงก็เตรียมการเอาไว้ค่อนข้างพร้อม

อย่างไรก็ตาม 1 ใน 6 สิ่งที่องค์การอนามัยโลกระบุว่าจะทำให้การควบคุมโรคระบาดได้ดีคือความร่วมมือของประชาชนว่าภาครัฐเปิดให้แล้ว แต่ก็ต้องคำนึงถึงมาตรการที่ทำเพื่อไม่ให้ตัวเราเป็นคนแพร่เชื้อหรือรับเชื้อ

 

ซึ่งความรอบรู้เรื่องเหล่านี้นั้นเท่าที่มีการสำรวจร่วมกับสำนักงานสถิติแห่งชาติที่ผ่านมา พบว่าคนไทยรู้ และปฏิบัติเรื่องการล้างมือให้สะอาด เกือบ 90% และสวมหน้ากากอนามัย หน้ากากผ้าเมื่อออกนอกบ้านค่อนข้างสูง แม้ว่าเราอยากได้ความร่วมมือถึง 100% แต่ก็เข้าใจว่าคงไม่มีอะไร 100% 

อย่างไรก็ตาม ตรงนี้สะท้อนจากข้อมูลไข้หวัดใหญ่ที่มีหน้าตาเหมือนโควิด-19 พบว่าเมื่อเดือน ม.ค. เรามีผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ประมาณ 50,000 ราย พอ ก.พ. และมี.ค.ยอดป่วยลดลงมาระดับพันราย แสดงว่าวิธีที่ชาวบ้านปฏิบัติตัวนั้นป้องกันโรคได้ ในภาพรวม แต่ว่าอย่าประมาท....

แหล่งข้อมูล : https://www.dailynews.co.th/politics/771231

27 April 2563

ที่มา เดลินิวส์

Posted By nitayaporn.m

Views, 2542

 

Preset Colors