02 149 5555 ถึง 60

 

กมธ.สธ.ห่วงงบบัตรทองไม่พอ สปสช.ปรับฐานคำนวณปี 62 ใหม่ แก้ของบกลางปี

กมธ.สธ.ห่วงงบบัตรทองไม่พอ สปสช.ปรับฐานคำนวณปี 62 ใหม่ แก้ของบกลางปี

กมธ. สาธารณสุข สนช. ห่วงงบประมาณบัตรทองไม่เพียงพอ แนะปรับระบบสอดคล้องสถานการณ์ปัจจุบัน ด้าน สปสช. แจง ปี 62 เตรียมปรับฐานคำนวณใหม่ หลัง “บิ๊กฉัตร” แนะของบให้เพียงพอ แก้ปัญหาไม่ต้องของบกลางเพิ่มทุกปี พร้อมลุ้น ครม. พิจารณาอนุมัติงบกลาง หนุนงบผู้ป่วยในกองทุนบัตรทอง พรุ่ง

วันนี้ (5 มี.ค.) พล.อ.โปฎก บุนนาค รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข คนที่ 3 สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พร้อมด้วยกรรมาธิการการสาธารณสุข (กมธ. สาธารณสุข) ได้เยี่ยมศึกษาดูงานและแลกเปลี่ยนความเห็นในการดำเนินงานระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 2 โดยมี นพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และคณะผู้บริหาร สปสช. ให้การต้อนรับพร้อมให้ข้อมูลและตอบข้อซักถาม

พล.อ.โปฎก กล่าวว่า องค์กรด้านสุขภาพนับเป็นองค์กรมีความสำคัญที่สุด เพราะต้องดูแลสุขภาพประชาชนตั้งแต่อยู่ในครรภ์จนเสียชีวิตลง ทั้งงบประมาณด้านสุขภาพนับวันจะยิ่งเพิ่มสูงขึ้นตามตัว จากความเจริญการแพทย์ที่ก้าวหน้า อายุประชากรที่ยืนยาวขึ้น และอัตราเสียชีวิตที่ลดลง ดังนั้น ทำอย่างไรให้งบประมาณที่ได้รับเพียงพอต่อการดูแลสุขภาพประชาชนทั้งหมด ซึ่งระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาตินับเป็นโครงการที่ดี ทำให้ประชาชนเข้าถึงบริการสุขภาพอย่างครอบคลุมและทั่วถึง แต่ทำอย่างไรทำให้ระบบที่มีอยู่ขณะนี้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน โดยเฉพาะงบประมาณ ทั้งบุคลากรทางการแพทย์ทำงานด้วยความสบายใจ ประชาชนได้รับการดูแลที่ดี ทั้งนี้การเยี่ยมดูงานการดำเนินหลักประกันสุขภาพแห่งชาติในวันนี้ เป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เพื่อนำไปสู่การพัฒนาระบบหลักประกันสุขภาพของประเทศที่ดี

ทั้งนี้ ที่ประชุมโดย กมธ. สาธารณสุข ได้ซักถามแนวทางแก้ปัญหาความเพียงพอของงบประมาณกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติในระยะยาว เนื่องจากที่ผ่านมาต้องมีการของบกลางเพิ่มเติมจากรัฐบาลเพื่อสนับสนุน การแก้ไขปัญหา รพ. ขาดทุน และการบริหารกองทุนต่างๆ ภายใต้ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ

นพ.จเด็ด ธรรมธัชอารี รองเลขาธิการ สปสช. กล่าวว่า ความพอเพียงของงบประมาณกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ นับเป็นปัญหาสำคัญในการดำเนินระบบฯ เนื่องจากแต่ละปีงบประมาณที่ สปสช. ได้รับ จะได้รับต่ำกว่างบที่เสนอขาขึ้นเสมอ โดยในปีงบประมาณ 2560 ศ.นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รมว.สาธารณสุข ได้นำทีมเข้าพูดคุยถึงปัญหางบประมาณที่ไม่เพียงพอกับนายกรัฐมนตรี จนได้รับอนุมัติงบกลางเพื่อสนับสนุนเพิ่มเติม และในปี 2561 นี้ ศ.นพ.ปิยะสกล ยังเป็นผู้นำทีมเข้าพูดคุยกับ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี เพื่อขอสนับสนุนงบประมาณปี 2561 จากงบกลางเพิ่มเติมอีก โดยจะมีการนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาในวันพรุ่งนี้ (6 มี.ค.) ซึ่งรอต้องดูว่าจะได้รับอนุมัติงบเพิ่มเติมตามที่เสนอหรือไม่

อย่างไรก็ตามจากที่ พล.อ.ฉัตรชัย ได้ลงมาดูงบประมาณด้านสุขภาพด้วยตนเอง โดยได้มอบนโยบายให้มีการจัดทำงบประมาณกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติให้เพียงพอ โดยไม่ต้องขอเพิ่มเติมจากงบกลางทุกปี ดังนั้นในปีงบประมาณ 2562 จะเป็นปีแรกที่จะมีการตั้งฐานปรับอัตราการคำนวณใหม่ โดยเฉพาะงบผู้ป่วยใน ซึ่งหากเป็นไปตามที่เสนอจะทำให้สถานการณ์งบประมาณในระบบดีขึ้น

“ในปี 2562 นี้ จะเป็นปีแรกของการตั้งฐานการคำนวณงบประมาณกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติใหม่ ซึ่งจะทำให้ปีต่อไปงบประมาณที่เข้าสู่ระบบเพิมขึ้น ส่งผลให้ปัญหางบประมาณไม่เพียงพอลดลง อย่างไรก็ตามหากยังคงมีปัญหางบไม่เพียงพอ คงต้องชะลอสิทธิประโยชน์ใหม่เพิ่มเติมซึ่งมีไม่มากแล้ว การปรับประสิทธิภาพการบริหาร แต่ยังคงไม่ถึงจุดที่จะรบกวนประชาชน ซึ่งหากปี 2562 งบประมาณที่ได้รับไม่ต่ำเกินไป ระบบยังคงเดินหน้าต่อไปได้” รองเลขาธิการ สปสช. กล่าว และว่า ในการจัดทำระบบบัญชีและการเงินกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติฯ ในปีนี้ สปสช. ยังจะมีการจ้างที่ปรึกษาระบบบัญชีระดับโลก มาช่วยวางระบบบัญชีเพื่อทำให้การกระจายงบประมาณมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

นพ.จเด็ด กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ที่ผ่านมา ยังมีการทำงานร่วมกันระหว่างกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และ สปสช. เพื่อแก้ปัญหาการบริหารงบประมาณกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ในโรงพยาบาลสังกัด สธ. มีการพูดคุยกันในทุกเดือน โดยรมว.สาธารณสุข เป็นประธาน เพื่อหารือว่าจะดำเนินนโยบายต่างๆ อย่างไร ทั้งยังมีการทำงานร่วมกันในระดับคณะกรรมการ 7x7 และคณะกรรมการระดับเขต 5x5 ซึ่งช่วยแก้ความขัดแย้งและลดอุปสรรคต่างๆ ได้มาก ซึ่งจากรายงานงบโรงพยาบาล สธ. ไตรมาสแรก ปี 2561 เป็นปีแรกที่ไม่มีรายงานโรงพยาบาลขาดสภาพคล่อง

6 March 2561

ที่มา ผู้จัดการ ออนไลน์

Posted By sty_lib

Views, 442

 

Preset Colors