อย.จ่อของบ 250 ล้าน สร้างตึกใหม่ทำศูนย์ขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์สุขภาพ

เลขาธิการ อย. ฟุ้งขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์สุขภาพคั่งค้างได้ทั้งหมด ส่วนของใหม่ทำได้ตามคู่มือประชาชน เตรียมของบปี 62 จำนวน 250 ล้านบาท สร้างตึกใหม่ 9 ชั้น ทำศูนย์ขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์สุขภาพแบบ One Stop Service พร้อมร่างกฎหมายใหม่ แก้กฎหมายเดิมทดแทนคำสั่ง ม.44 ให้เสร็จก่อนเกษียณ

นพ.วันชัย สัตยาวุฒิพงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการดำเนินการตามคำสั่งมาตรา 44 ที่ปลดล็อกความล่าช้าเรื่องบริการขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์สุขภาพ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 27 ธ.ค. 2559 รวมถึงการให้ อย. สามารถเรียกเก็บค่าขึ้นทะเบียนเพื่อมาใช้ในกิจการของ อย. ได้ โดยเฉพาะการจ้างผู้เชี่ยวชาญในการอ่านค่าความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์สุขภาพ ว่า หลังจาก อย. ดำเนินการตามคำสั่ง ม.44 ทำให้สามารถเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการพิจารณาอนุญาตและขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์สุขภาพต่างๆ ได้รวดเร็วขึ้น ล่าสุด สามารถพิจารณาเองเก่าที่เคยคั่งค้างได้อยู่จนหมด โดยรอบปีที่ผ่านมาไม่เหลืองานค้างแล้ว ส่วนงานใหม่ๆ ที่เข้ามาก็สามารถอนุมัติได้ตามคู่มือประชาชนที่สัญญาไว้

“จากการได้เครื่องมือ ม.44 มาใช้ ช่วยให้ อย. ดำเนินการได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งจากการที่รัฐบาลออกคำสั่ง ม.44 ในหลายหน่วยงาน และพยายามประมวลค้นหาความสำเร็จในส่วนราชการทั้งหมด ถือได้ว่าคำสั่ง ม.44 ที่ใช้กับ อย. เพื่อแก้ปัญหาขึ้นทะเบียนนั้น ประสบความสำเร็จมากที่สุด ถือเป็นผลงานของรัฐบาล เรียกได้ว่าใช้เครื่องมือที่ได้มาสร้างผลงานได้เป็นรูปธรรมมากที่สุดในตอนนี้” นพ.วันชัย กล่าว

เมื่อถามถึงกระแสข่าวการเตรียมของบเพื่อสร้างอาคารคลังยาเสพติดใหม่ นพ.วันชัย กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นความเข้าใจผิด ที่ อย. จะของบสร้างอาคารใหม่นั้นเป็นในส่วนของการให้บริการขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์สุขภาพ ซึ่งปัจจุบัน อย.เปิดศูนย์เพื่อดำเนินการตามคำสั่ง ม.44 อยู่ที่บริเวณอาคารคลังยาเสพติดในปัจจุบัน ซึ่งเป็นเพียง 1 ห้องเล็กเท่านั้น แต่เพื่อรองรับการพัฒนาการดำเนินงานการขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์สุขภาพทั้งหมดให้ดีและรวดเร็วยิ่งขึ้น สร้างความสามารถในด้านการแข่งขันทางเศรษฐกิจ อย. จึงมีแผนก่อสร้างอาคารใหม่ เป็นอาคาร 9 ชั้น เพื่อตั้งเป็นศูนย์บริการขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์สุขภาพแบบเบ็ดเสร็จ หรือ One Stop Service โดยจะของบประมาณในปี 2562 จำนวนราว 250 ล้านบาท

ผู้สื่อข่าวถามว่า คำสั่ง ม.44 ไม่ยั่งยืน ต้องมีการแก้กฎหมายเพิ่มเติมหรือไม่ นพ.วันชัย กล่าวว่า ต้องมีการแก้กฎหมายแน่นอน โดยจะดำเนินการทั้งการออกกฎหมายใหม่ และแก้ไขกฎหมายเดิม เช่น กฎหมายยา อาหาร เครื่องสำอาง เครื่องมือแพทย์ เป็นต้น โดยอาศัยความตามมาตรา 44 มาแก้ไข ซึ่งการดำเนินการทั้งหมดจะพยายามให้เสร็จสิ้นก่อนที่ตนจะเกษียณใน ก.ย. 2561 ถือเป็นผลงานทิ้งทวนก่อนเกษียณ

7 February 2561

ที่มา ผู้จัดการ ออนไลน์

Posted By sty_lib

Views, 617