ฟ้าทะลายโจร สมุนไพรเป็นทั้งยาเป็นทั้งอาหาร
ฟ้าทะลายโจร สมุนไพรเป็นทั้งยาเป็นทั้งอาหาร
สุขภาพดี วิถีหมอไทย... เรื่องโดย... คมสัน ทินกร ณ อยุธยา แพทย์แผนไทยราชสกุลทินกร
ไม้มหัศจรรย์ “ฟ้าทะลายโจร” ใช้เรียกกันหลายชื่อ น้ำลายพังพอน ฟ้าสะท้าน หญ้ากันงู เมฆทลาย ขุนโจรห้าร้อย ส่วนจีนเรียก ชวนชิน
ฟ้าทะลายโจรนั้นอยู่ในวงศ์เดียวกับต้นเหงือกปลาหมอ ขึ้นได้โดยทั่วไปในแถบภูมิภาคนี้ไปจนถึงโพ้นทะเลแคริบเบียนเลย เป็นไม้ล้มลุกชนิดหนึ่ง แตกกิ่งมากใบ มักชุกขึ้นได้ในดินทุกชนิด ทนแดดทนร่มได้ดี ใช้เมล็ดมาปลูกเมื่อโตแล้วไม่ต้องการๆ ดูแลมากนัก แค่ให้น้ำก็พอ ปุ๋ยบางทียังไม่ต้องใช้เลย
ต้นฟ้าทะลายโจรมีรสขมขม คือ ขมมากทุกส่วน ไม่เว้นเลย
ในอินเดียเรียกฟ้าทะลายโจรว่าเป็นราชาแห่งความขม
ในวิชาหมอไทยนั้น ถ้ารสขมยิ่งขมมากถือว่ามีแรงโอสถสารสูงมากนัก หมอไทยจะระวังเป็นที่สุด มีคุณมากก็มีโทษแฝงเยอะ
เฮ้อ!!! อนิจจังอนิจจาถึงเขียนข้อควรระวังไว้ข้างขวด แต่จะมีกี่คนที่อ่าน
กลไกของเครื่องยาชนิดนี้ หมอไทยว่า เข้าทาง ลดปิตตะ คือ บรรเทาอาการจากพลังงานความร้อนที่เคลื่อนอยู่ภายนอกกาย แต่ถ้ามีไข้สูงเราจะไม่ใช้ ถ้าใช้ต้องใส่ตัวยาชนิดอื่นด้วย เพื่อไปถ่วงความแรงลง
เราไม่เอาน้ำเย็นไปราดบนกองไฟ เราไม่ทำเยี่ยงนั้น เพราะฟ้าทะลายโจรมีฤทธิ์เย็นมาก ไม่ดีสำหรับพิษไข้ระยะต้น
การใช้ฟ้าทะลายโจรในประสบการณ์ของหมอไทย
🢭 ใช้เป็นตัวยาสามัญประจำบ้านที่คนไข้สามารถพึงพาตนเองได้ หมอไทยเพียงบอกวิธีกินเท่านั้น
🢭 ใช้ในกลุ่มอาการไข้ ให้ไอแห้ง ใช้ละลายเสลดเหนียวในช่วงคอ ช่องอกได้ จนถึงอาการเจ็บคออันเกิดแต่ไอและเสลดนั้นเป็นเหตุ สามารถใช้ได้ทั้งสดและแห้ง โดยใช้ส่วนใบหรือติดกิ่งได้ แต่ให้มีส่วนของใบมากกว่า อายุของต้นต้อง 3 เดือนขึ้นไป หรือออกดอกแล้วอย่างน้อยกิ่งต้น
ซึ่งการใช้ฟ้าทะลายโจรก็สามารถใช้ได้หลายหลายวิธี กล่าวคือ
1. ใช้ใบสดชงน้ำเดือดแล้วจิบดั่งจิบชา (ห้ามดื่มแทนน้ำ)
2. ใช้ใบสดหรือใบแห้งต้มเดือดแล้วกรอง ดื่มครั้งละครึ่งถึงหนึ่งแก้ว วันละ 3 เวลา
3. ใช้ผงยาแห้ง เข้ากระสายน้ำผึ้งปั้นเป็นลูกกลอน 3-4 ลูกกลอน วันละ 3 เวลา
4. ใช้กวาดคอ ผงยาแห้งแทรกเกลือและน้ำผึ้งเป็นกระสาย ใช้กวาดคอบ่อยๆ
5. ใช้ใบสดอมไม่เคี้ยว ครั้งละ 2-3 ใบ อมจนยาจืด
6. ใช้ผงยาแห้งอัดแคปซูลเบอร์ 0 กินครั้งละ 3 แคปซูล เวลาท้องว่าง
ระยะเวลาในการวางตัวยาฟ้าทะลายโจรของหมอไทย
หากใช้ตามพระคัมภีร์แพทย์ “ฉันทศาสตร์”
⬥ ถ้าวางแก้ไข้ ใช้เวลา 4-5 วัน
⬥ ถ้าวางแก้ทางเสลด หรือระบบเสมหะ ใช้เวลา 9 วัน (ต้องไม่มีไข้แล้ว)
⬥ ถ้าไม่ฟัง (ไม่ได้ผล) แพทย์จะหยุดยาทันที และวางยาขนานอื่นๆ เป็นลำดับถัดไป
หมอไทยขอแนะนำว่า...ถ้าจะใช้ฟ้าทะลายโจร อย่าใช้เดี่ยวๆ ให้ใช้รวมกับตัวยาอื่นๆ ไปจะดีกว่า โดยขอแนะดังนี้
🞠 สำหรับใช้ลดไข้ตัวร้อนเท่านั้น ถ้าไข้ตัวเย็นห้ามขาด
ใช้ผงฟ้าทะลายโจร 1-2 แคปซูล กินพร้อมกับน้ำต้มขิงแก่ เพื่อผ่อนเย็นของฟ้าทะลายโจร
แล้วให้เอาผงฟ้าทะลายโจรลงละลายในนำอุ่นผสมด้วยน้ำส้มสายชูอีกนิด ใช้เช็ดเนื้อเช็ดตัวผ่อนความร้อนลงช่วยกัน
🞠 หากใช้แก้ไอเจ็บคอ
แนะให้เอาผงฟ้าทะลายโจรผสมกับน้ำมานาวเป็นกระสาย แล้วกวาดไปตามช่องปากช่องคอ จะขมมากปนเปี้ยว ใช้ยากแต่ปลอดภัยกว่า ดีกว่าดินยาแคปซูล
มีอีกวิธีพอหลีกเลี่ยงได้ คือ เอาผงฟ้าทะลายโจรใส่ถ้ำยาดม เจือด้วยพิมเสนหอม ใช้สูดดมบ่อยๆ ไอระเหยความขมจะเข้าทางจมูกแทน แถมยังช่วยลดน้ำมูกและฆ่าเชื้อในโพลงจมูกได้อีกด้วย
🞠 หากไมเกรนเข้าตา หรือตาล้า ตาพร่าตามัว เป็นต้อลมต้อแดด ต้อชนิดต่างๆ
ใช้ผงฟ้าทะลายโจรผสมกับไข่ขาวของไข่เป็ดเป็นกระสาย ใช้พอกตา ช่วยได้ดีตาใสสว่าง
🞠 ถ้าผดผื่นขึ้นตามเนื้อตามตัว
ใช้ผงฟ้าทะลายโจรลาลายในน้ำสุรา ใช้ทาบริเวณที่มีอาการ หายแล้วให้เลิกกัน
🞠 ถ้าตับร้อน ตับล้า
ใช้ทาที่ตับด้านนอกใต้ชายโครงขวา ช่วยผ่อนร้อนตับลง
ความจริงฟ้าทะลายโจรยังสามารถใช้ได้เกินกว่าแจ้ง แต่ของแจงเพียงนี้ เพราะเหมาะสมกับประชาชนทั่วไปจะใช้ มากกว่านั้นต้องขอให้เป็นเรื่องของหมอไทยเขาใช้ดีกว่า
ที่ต้องเตือนอีกเรื่องและสำคัญยิ่งคือ
อย่าใช้ฟ้าทะลายโจรต่อเนื่องเกินกว่า 3 วัน
ถ้าไม่หายไปหาหมอให้หมอตรวจจะดีกว่า
คนท้องคนไส้ คนมีความดันต่ำ ห้ามใช้นะไม่ดี
บอกไว้เพิ่มอีกนิด อันนี้สำหรับเฉพาะหมอไทยเท่านั้น...
ให้นำใบฟ้าทะลายโจรมาห่อผ้าขาวบางลงดองในน้ำสุราเข้มๆ สักสองอาทิตย์ เป็นวิธีสกัดได้หัวเชื้อฟ้าทะลายโจรเข้มข้นสูงมาก เพื่อนำไปผสมรวมกับยาตัวอื่นๆ ต่อไป เป็นการเพิ่มสรรพคุณของยาในตำรับนั้นๆ ขึ้นไปอีก ใช้กับตำรับยารสประธานเย็นหรือสุราเท่านั้น ยาร้อนห้ามใช้
ผู้เขียนขอเชื้อเชิญปลูก “ฟ้าทะลายโจร” สมุนไพรที่เป็นยาดีไว้ใช้สักอีกต้น ใช้ดีจึงบอกต่อ
ถ้าจะกินฟ้าทะลายโจร มันขมมาก หมอขอแนะว่า ใครพอกินขมได้ให้เอาไปต้มน้ำเดือด ใส่ชาเขียวเข้าไปด้วยนะ พอกลบขมได้นิด
สำหรับฟ้าทะลายโจรกุ้งชุมแป้งทอด
สำรับนี้ถ้าได้กุ้งฝอยมาจะดีมาก ถ้าไม่ได้หากุ้งตัวเล็กๆ ก็พอได้
ส่วนใบฟ้าทะลายโจร นำมาแช่ในน้ำเกลือแล้วขยำ ล้างออกหลายๆ น้ำ นำไปต้มเดือดต่อสักสองสามน้ำจนลดขมลง น้ำที่ต้มอย่าทิ้ง เก็บไว้กินเป็นยาแก้ร้อนในได้
นำใบที่ต้มแล้วมาสับละเอียดผสมไปกับแป้งทอดที่เตรียมไว้ ใส่กุ้งตามไป ลงทอดในน้ำมันร้อนเป็นแผ่นกลมๆ จิ้มกับอาจาดหรือน้ำจิ้มซีฟู้ดก็ได้
สำรับนี้สำหรับตนชอบความขม
หมอชาวบ้าน ปีที่ 43 ฉบับที่ 508 เดือนสิงหาคม 2564
1 September 2564
By STY/Lib
Views, 36982