02 149 5555 ถึง 60

 

มาแล้ว "โอไมครอน" ลูกผสมน้องใหม่ "XE" ไทยเจอแล้ว 1 WHO เตือนแพร่ง่าย-เร็วกว่า

มาแล้ว "โอไมครอน" ลูกผสมน้องใหม่ "XE" ไทยเจอแล้ว 1 WHO เตือนแพร่ง่าย-เร็วกว่า

ไม่จบง่าย ๆ มาแล้ว "โอไมครอน" ลูกผสมน้องใหม่ "XE" ไทยเจอแล้ว 1 WHO เตือนแพร่ง่าย-เร็วกว่าสายพันธุ์ดั้งเดิมถึง 43%

หลังจากที่องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ออกคำเตือนเกี่ยวกับ "โอมิครอน" หรือ "โอไมครอน" สายพันธุ์ลูกผสม "XE" ที่แพร่เชื้อติดต่อได้ง่ายและรวดเร็วกว่าไวรัสโคโรนา 2019 ทุกสายพันธุ์ที่เคยประสบมา เป็นสายพันธุ์ลูกผสมระหว่างโอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.1 X BA.2 ไม่ใช่ "เดลตาครอน" ซึ่งเป็นสายพันธู์ลูกผสมระหว่าง เดลตา กับ โอมิครอน

ล่าสุด ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ โรงพยาบาลรามาธิบดี ตรวจพบสายพันธุ์ลูกผสม "XE" จากการถอดรหัสพันธุกรรมทั้งจีโนมจากตัวอย่างส่งตรวจจากผู้ติดเชื้อ 1 ราย และตรวจกรองพบสายพันธุ์ลูกผสม เดลตาครอน (เดลตา X โอมิครอน) อีก 1 ราย ด้วยเทคโนโลยี Massarray Genotyping

"โอไมครอน" สายพันธุ์ลูกผสม "XE" พบครั้งแรกในสหราชอาณาจักร เมื่อวันที่ 19 มกราคม โดยมีการถอดรหัสพันธุกรรม ทั้งจีโนมและอัปโหลดขึ้นไปแชร์ไว้บนฐานข้อมูลโควิด-19 โลกแล้วมากกว่า 600 ตัวอย่าง WHO ประเมินว่าสายพันธุ์ลูกผสม "XE" มีอัตราการแพร่ระบาด (growth advantage) เหนือกว่า BA.2 ถึง 10% อย่างไรก็ตาม ยังต้องรอข้อมูลจากทั่วโลกที่ร่วมด้วยช่วยกันถอดรหัสพันธุกรรมทั้งจีโนมอีกระยะหนึ่งเพื่อการยืนยัน

ตามรายงานของสำนักงานบริการสุขภาพแห่งสหราชอาณาจักร (UK Health Services Agency) หรือ "UKHSA" ยืนยันเช่นเดียวกันว่า "โอไมครอน" สายพันธุ์ลูกผสม "XE" สามารถแพร่ระบาดได้รวดเร็วกว่า BA.2 ประมาณ 10% และแพร่ได้รวดเร็วกว่าโอไมครอนสายพันธุ์ดั้งเดิม (B.1.1.529) ถึง 43% คงต้องอาศัยเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าสายพันธุ์ลูกผสม "XE" จะกลายเป็นคลื่นระลอกใหม่ที่ระบาดไปทั่วโลกและเข้ามาแทนที่ BA.2 ได้หรือไม่

อนึ่ง จากการถอดรหัสพันธุกรรมไวรัสโคโรนา 2019 ทั้งจีโนมในเดือนมีนาคม 2565 ของศูนย์จีโนมทางการแพทย์ โรงพยาบาลรามาธิบดี ตรวจพบสายพันธุ์ลูกผสม "XE" ในประเทศไทยแล้ว 1 ราย อยู่ในระหว่างการดำเนินการอัปโหลดขึ้นแชร์บนฐานข้อมูลโควิดโลก GISAID และเร่งแจ้งไปยังแพทย์ผู้ส่งตรวจทราบต่อไป

4 April 2565

ที่มา คม-ชัด-ลึก

Posted By Thongpet/kanchana/Maneewan

Views, 270

 

Preset Colors