เปิดเหตุผล ทำไมห้ามใช้ "ยาฟาวิพิราเวียร์" รักษาโควิดคู่กับ "ฟ้าทะลายโจร"

ไขข้อข้องใจ ทำไมถึงห้ามใช้ "ยาฟาวิพิราเวียร์" รักษาโควิด คู่กับ "ฟ้าทะลายโจร" เช็คเลยผลข้างเคียงอันตรายกว่าที่คิด

เป็นที่ทราบกันดีว่า เมื่อติดโควิดแล้ว ยาที่ใช้รักษาอาการหลักคือ "ยาฟาวิพิราเวียร์" แต่ถ้าอาการไม่หนักมาก หนึ่งในยา "เจอแจกจบ" ก็จะมี "ฟ้าทะลายโจร" ที่ใช้ในการรักษา สำหรับผู้ป่วยที่ไม่มีอาการ ,อาการไม่หนักมาก หรือ ผู้ป่วยในกลุ่มสีเขียว แต่ก็มีคำถามว่า ทำไม "ยาฟาวิพิราเวียร์" จึงไม่ควรใช้ควบคู่กับฟ้าทะลายโจร "คมชัดลึกออนไลน์" ได้รวบรวมเพื่อไขข้อข้องใจ

นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงความจำเป็นเรื่องยาฟาวิพิราเวียร์ในกลุ่มโควิดที่ไม่มีอาการ ว่า ขณะนี้มีการปรับการดูแลรักษา โดยหากไม่มีอาการ ก็ไม่จำเป็นต้องจ่ายยาฟาวิพิราเวียร์ ซึ่งไปตามลักษณะของทั่วโลก โดยเราจะจ่ายให้กับผู้ที่มีอาการปานกลางขึ้นไป เป็นไกด์ไลน์ใหม่ของกรมการแพทย์ แต่หากผู้ติดเชื้อไม่มีอาการ แต่อยากได้ยาฟาวิพิราเวียร์ ขอให้แพทย์เป็นผู้พิจารณา และทำความเข้าใจกับคนไข้ ยาคือยา

ต่างจากขนม ยาทานเข้าไปแล้วก็มีผลดี ผลข้างเคียงและผลเสีย จึงต้องรับประทานที่จำเป็นจริง ๆ

นพ.ณัฐพงศ์ วงศ์วิวัฒน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ ย้ำว่า ไม่มีอาการไม่ต้องรับยาต้านไวรัสฟาวิพิราเวียร์ ทุกวันนี้มีการเข้าใจผิด มีประชาชนและจิตอาสามาขอยาให้ประชาชน อยากบอกว่าแนวทางการรักษาในปัจจุบันออกมาว่า ผู้ป่วยไม่มีอาการไม่จำเป็นต้องได้ยาต้านไวรัสฟาวิพิราเวียร์ หากมีอาการหรือความเสี่ยงก็อีกเรื่อง แต่อาจพิจารณาให้ฟ้าทะลายโจรได้ แต่หากรับฟ้าทะลายโจรแล้ว ก็ไม่ควรรับฟาวิพิราเวียร์มารับประทานร่วมกัน อาจเกิดภาวะตับอักเสบได้ ถ้าอาการมากขึ้นจะมียาตัวอื่น หรือส่งเข้าโรงพยาบาลรักษาตามระบบตามปกติ

นพ.ณัฐพงศ์ กล่าวต่อว่า ข้อบ่งชี้การรับยานั้น ถ้าผู้ป่วยไม่มีอาการเลย ไม่จำเป็นต้องรับยา ถ้ามีอาการแม้แต่เล็กน้อย จะเป็นดุลยพินิจของแพทย์ผู้รักษา ว่า จำเป็นมากน้อยแค่ไหน บางคนเสี่ยงแพ้ยาได้ หรืออาการข้างเคียงจากการกินยาร่วมกัน โดยผู้ป่วยปอดบวมควรได้ยา แต่ถ้ายาตัวใดตัวหนึ่งอาจมีอาการข้างเคียงก็จะเปลี่ยนอีกตัวหนึ่ง อย่างคนท้องเราไม่ให้ฟาวิพิราเวียร์ ต้องเป็นเรมดิซีเวียร์ ถ้ามีอาการดุลยพินิจของแพทย์ เช่น ไข้ไอเหนื่อยหอบเหมือนมีปอดบวม 3 วันไข้ไม่ลง ถือว่ามีข้อบ่งชี้

อาการข้างเคียงเมื่อทาน"ฟาวิพิราเวียร์" คู่กับ "ฟ้าทะลายโจร

ตับอักเสบ แม้จะไม่เกิดขึ้นมาก แต่ก็เกิดได้

ดวงตาเปลี่ยนเป็นสีฟ้า เพราะฉะนั้น หากไม่มีอาการก็ไม่มีความจำเป็น ยิ่งกินคู่กับฟ้าทะลายโจรทำให้มีอาการขึ้นมา จึงควรซักประวัติก่อนว่า รับยาฟ้าทะลายโจรมาแล้วหรือไม่ ต้องหยุดก่อน ไม่กินคู่กัน

อย่างไรก็ตาม การใช้ยาร่วมกันระหว่างฟาวิพิราเวียร์กับฟ้าทะลายโจร เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นทั่วไป ทั้งในโรงพยาบาลสนามและที่บ้าน (home isolation) แต่ผลข้างเคียงอาจจะไม่พบมากนัก ทั้งนี้ เนื่องจากการใช้ฟ้าทะลายโจรชนิดกินทั่วไป ไม่ละลายน้ำและดูดซึมน้อยกว่าร้อยละ 5 แตกต่างจากฟ้าทะลายโจรขนาดนาโน ซึ่งมีสารแอนโดรกราโฟไลด์ที่ละลายน้ำและดูดซึมได้ดีกว่ามาก ทำให้มีระดับยาสูง และทำให้ปฏิกริยาต่อกันกับยาฟาวิพิราเวียร์แสดงออกชัดเจน อาจเป็นสาเหตุของภาวะแทรกซ้อน และพบว่าเอนไซม์ในตับ ซึ่งมีหน้าที่เปลี่ยนแปลงสารเคมีหลายชนิดเพื่อการทำลายพิษของยาหรือสารเคมี อาจจะถูกยับยั้งโดยสารแอนโดรกราโฟไลด์ที่มีอยู่ในยาฟ้าทะลายโจร

ส่งผลให้ระดับยาฟาวิพิราเวียร์คั่งค้างสูงผิดปกติ จนระดับยาส่วนเกินเพิ่มสูงในกระแสเลือดมากกว่าที่ควรจะเป็น อันเป็นเหตุให้เกิดอาการคลื่นไส้อาเจียนอย่างรุนแรง อย่างไรก็ตามกลไกของการทำให้มีปฏิกิริยาต่อกันของยาทั้งคู่เป็นข้อมูลเบื้องต้นเท่านั้น ผู้วิจัยต้องการแจ้งเตือนต่อผู้ป่วยและแพทย์ที่มีการใช้ยาคู่เพื่อความมุ่งหวังผลช่วยเหลือการรักษา อาจเป็นอันตรายต่อผู้ป่วย และไม่แนะนำให้มีการใช้ยาฟ้าทะลายโจร ร่วมกับยาฟาวิพิราเวียร์ เพื่อการรักษาโควิด

18 March 2565

ที่มา คม-ชัด-ลึก

Posted By Thongpet/kanchana/Maneewan

Views, 8448