รู้จัก กลุ่ม 608 กลุ่มเสี่ยงอาการหนักเมื่อติดโควิด ต้องเร่งฉีดวัคซีนก่อนสงกรานต์
รู้จัก กลุ่ม 608 กลุ่มเสี่ยงอาการหนักเมื่อติดโควิด ต้องเร่งฉีดวัคซีนก่อนสงกรานต์
โควิดยอดดับนิวไฮสูงกว่าเส้นคาดการณ์ เร่งฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นก่อนสงกรานต์ โดยเฉพาะกลุ่ม 608 ที่อัตราเสียชีวิตสูงกว่ากลุ่มอื่น
กระทรวงสาธารณสุขเผย ผู้ติดเชื้อโควิด 19 ของไทยยังเพิ่มขึ้น ขอประชาชนร่วมกันเข้มมาตรการลดการติดเชื้อ พร้อมเร่งฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้น โดย นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า สถานการณ์โควิด 19 ของประเทศไทยยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นและอาจเป็นไปตามฉากทัศน์ที่คาดการณ์ว่า จะมีผู้ติดเชื้อสูงสุดถึง 5 หมื่นรายในช่วงหลังสงกรานต์
เจ้าสาวหอบสินสอด 12 ล้าน ยกขันหมากขอหนุ่ม 2022แล้วไม่จำเป็นต้องรอ
เดือด ช่างแต่งหน้าบุกคุยเครียด กระติก ชี้หน้ากลางงานพิธีอาลัย
ผลชันสูตร รพ.คู่ขนานนิติเวช ชี้ บาดแผล แตงโม เกิดก่อนเสียชีวิต
เมื่อวันที่ 9 มี.ค. ที่ผ่านมา นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้แถลงถึงแผนปรับโควิดให้เป็นโรคประจำถิ่น ที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้รณรงค์เร่งฉีดวัคซีนโควิดเข็มกระตุ้นช่วงก่อนสงกรานต์
โดยตั้งเป้าหมายให้กลุ่ม 608 มารับวัคซีนมากที่สุด (ผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป, กลุ่มผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว 7 โรค และกลุ่มหญิงตั้งครรภ์) เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีอาการรุนแรงมากหากติดเชื้อโควิด-19 การทำงานของอวัยวะในร่างกายจะเสื่อมลง ภูมิคุ้มกันลดลง มีความเสี่ยงสูงที่อาจเกิดความรุนแรง หรือ อันตรายถึงชีวิต จึงเป็นกลุ่มที่ต้องระวังและควรได้รับวัคซีนในระยะเวลาอันรวดเร็ว
กลุ่มผู้สูงอายุ
เป็นกลุ่มที่มีอัตราเสียชีวิตสูงกว่าวัยอื่น โดยกระทรวงสาธารณสุขเผยว่า มีผู้สูงอายุอีก 2 ล้านคนที่ยังไม่ได้รับวัคซีน จึงแนะผู้สูงอายุรีบฉีดวัคซีนตั้งแต่ตอนนี้ เพื่อลูกหลานจะได้กลับไปเยี่ยมช่วงสงกรานต์ได้อย่างปลอดภัย
โรคประจำตัว 7 โรค
1.โรคทางเดินหายใจเรื้อรัง เนื่องจากโควิด-19 มีผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจ กระตุ้นอาการหอบหืดและอาจทำให้เกิดโรคปอดบวมและโรคร้ายแรงอื่น ๆ สำหรับผู้ป่วยโรคปอดนั้น โควิด-19 อาจทำให้โรคปอดกำเริบหนักขึ้น ทำให้ผู้ป่วยมีอาการรุนแรง
2.โรคหัวใจและหลอดเลือด หากผู้ป่วยโรคหัวใจติดเชื้อโควิด-19 อาจมีอาการหัวใจวาย หรือ อาจมีภาวะทางหัวใจและหลอดเลือดที่กำเริบขึ้นในขณะติดเชื้อโควิด-19 โดยพบว่ามีภาวะหัวใจล้มเหลวมากขึ้นประมาณ 20% เส้นเลือดหัวใจตีบมากขึ้นประมาณ 10% หัวใจเต้นผิดจังหวะมากขึ้นประมาณ 10% ส่งผลให้มีอัตราการเสียชีวิต การเข้า ICU การใช้เครื่องช่วยหายใจ และระยะเวลาการนอนโรงพยาบาลมากกว่าผู้ป่วยทั่วไป
3.โรคไตวายเรื้อรัง หากผู้ป่วยโรคไตติดเชื้อโควิด-19 จะมีความรุนแรงของโรคมากกว่าคนทั่วไป โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังระยะสุดท้าย ที่มีการฟอกเลือดและเปลี่ยนถ่ายไต อาจมีภูมิคุ้มกันต่ำกว่าคนปกติทั่วไป ทำให้ติดเชื้อได้ง่ายขึ้นและมีโอกาสเสียชีวิตสูง
4.โรคหลอดเลือดสมอง หากการติดเชื้อโควิด-19 อาจมีอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ จึงควรได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรค เพื่อช่วยผ่อนหนักเป็นเบา ลดความรุนแรงกรณีได้รับการติดเชื้อ
5. โรคอ้วน หากติดเชื้อโควิด-19 จะมีความเสี่ยงให้เกิดอาการรุนแรง เพราะโรคอ้วนเป็นภาวะการอักเสบเรื้อรังอย่างหนึ่งที่มักจะเกิดร่วมกับโรคเรื้อรังอื่น ๆ ส่งผลให้ร่างกายอยู่ในสภาพที่ไม่แข็งแรง เมื่อได้รับเชื้อโควิด 19 เข้าไป ทำให้อาการอักเสบมีความรุนแรงขึ้น ปอดทำงานลดลง ภูมิคุ้มกัน T cell ทำงานน้อยกว่าปกติ ส่งผลให้เกิดลิ่มเลือดในปอดได้ง่ายขึ้น
อีกทั้งในคนที่เป็นโรคอ้วนจะมีเซลล์ไขมันในร่างกายที่สามารถรับเชื้อโควิด-19 ในปอดได้มากกว่า ส่งผลให้ปอดอักเสบรุนแรงกว่า โดยเฉพาะคนที่มีดัชนีมวลกายสูง อาจมีผลทำให้การขยายตัวของปอดทำได้จำกัด เพิ่มความเสี่ยงมากขึ้นเมื่อมีการติดเชื้อไวรัสที่ปอด
6.โรคมะเร็ง (โรคมะเร็งทุกชนิด ที่อยู่ระหว่างการรักษาด้วยเคมีบำบัด รังสีบำบัด) หากผู้ป่วยมะเร็งได้รับเชื้อโควิด-19 มีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อนและเสียชีวิตมากกว่าคนที่ไม่มีโรคประจำตัว เนื่องจากผู้ป่วยมีระดับภูมิคุ้มกันของร่างกายต่ำกว่าคนทั่วไป ซึ่งอาจเกิดจากตัวโรคมะเร็งเอง หรือ เกิดจากการรักษาที่ได้รับ และผู้ป่วยมะเร็งส่วนหนึ่งเป็นผู้สูงอายุและอาจมีโรคร่วมอื่น ๆ เช่น โรคเบาหวาน ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงร่วมทำให้มีโอกาสเกิดอาการรุนแรงจากโรคโควิด-19
7.โรคเบาหวาน ทั้งเบาหวานชนิดที่ 1 และชนิดที่ 2 รวมถึงผู้ป่วยโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์มีความเสี่ยงในการเกิดอาการรุนแรงหากติดโรคโควิด-19 เนื่องจากผู้ป่วยโรคเบาหวานมีระดับน้ำตาลที่สูงกว่าค่าปกติ ส่งผลให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานลดลง เชื้อไวรัสสามารถเติบโตและกระจายตัวได้ง่ายขึ้น
หญิงตั้งครรภ์ที่มีอายุครรภ์ 12
หากหญิงตั้งครรภ์ได้รับเชื้อโควิด-19 พบว่ามีอาการรุนแรง มีโอกาสป่วยหนัก นอน ICU แล้ว ยังส่งผลให้มีโอกาสคลอดก่อนกำหนด ทารกน้ำหนักตัวน้อยกว่าปกติ เสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 จากแม่ จึงเป็นกลุ่มเสี่ยงที่ต้องได้รับการฉีดวัคซีนโดยเร็ว
สำหรับช่วงสงกรานต์นี้ แม้ไม่มีข้อห้ามเดินทางกลับภูมิลำเนา แต่อยากให้ประชาชนรักษามาตรการป้องกันตนเองไว้ ใส่หน้ากาก เลี่ยงการอยู่ในที่มีคนจำนวนมาก ล้างมือและรับวัคซีน เพื่อที่จะได้พบปะครอบครัวได้อย่างปลอดภัย
14 March 2565
ที่มา ข่าวสด
Posted By Thongpet/kanchana/Maneewan
Views, 722