02 149 5555 ถึง 60

 

การสื่อสารในยุค COVID-19 พูดคุยกันอย่างไรให้เข้ากับยุคสมัยที่เปลี่ยนไป

การสื่อสารในยุค COVID-19 พูดคุยกันอย่างไรให้เข้ากับยุคสมัยที่เปลี่ยนไป

สำหรับคนรุ่นใหม่แล้ว เมื่อมีคำถาม หรือมีความสนใจอยากรู้เรื่องอะไรก็ตาม ก็มักจะต้องการแสวงหาคำตอบ การแสวงหาการเรียนรู้ด้วยตนเอง ทำให้เกิดการตั้งคำถามกับสิ่งต่างๆ รอบตัวอยู่เสมอ เช่น ทำไมพวกเขาต้องใส่ชุดเครื่องแบบมาเรียน ทำไมต้องตัดผมสั้น ซึ่งคำตอบที่ได้ จะทำให้เขาเข้าใจ รู้เหตุและผลว่าทำไปเพื่ออะไร เด็กจะไม่ยอมเสียเวลาโดยที่เขาไม่รู้ว่า ทำไปเพื่ออะไร หรือทำแล้วเขาจะได้อะไร ดังนั้นเราจึงมักจะเห็นเด็กรุ่นใหม่ตั้งคำถามกับกฎ ระเบียบ และเรื่องราวต่าง ๆ ในสังคมอยู่เสมอ

หนทางในการแสวงหาคำตอบของคนรุ่นใหม่นั้น อาจจะเริ่มต้นพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับพ่อแม่หรือผู้ปกครอง หากอยู่ในสถานศึกษา อาจจะมีการพูดคุยกับเพื่อน หรือครู อาจารย์ ที่สามารถให้คำแนะนำหรือให้ความรู้ได้ แต่ปัญหาที่มักพบได้บ่อยในการพูดคุย จนถึงขั้นอาจจะลุกลามเป็นความขัดแย้ง คือ ความไม่เข้าใจอันเกิดขึ้นเนื่องจากช่องว่างของอายุ เพราะคนแต่ละช่วงอายุ มักจะผ่านประสบการณ์ ความคิด การหล่อหลอมในสิ่งแวดล้อม สังคม ศาสนา และความเชื่อที่แตกต่างกัน เช่น พ่อแม่ ผู้ปกครองหรือคุณครู

หากอายุมากหน่อยอาจจะอยู่ในยุค Baby Boomer (เกิดประมาณปี พ.ศ. 2489-2507) และช่วงอายุ Gen-X (เกิดในช่วง พ.ศ. 2508-2522) และ Gen-Y (เกิดในช่วง พ.ศ. 2523-2540) ขณะที่คนรุ่นใหม่ คือ Gen-Z (เกิดในช่วง พ.ศ. 2540 – 2555) เติบโตมาพร้อมกับการเข้าถึงข้อมูลได้ง่าย มีความถนัดในการใช้เทคโนโลยี และมีค่านิยมรวมถึงพฤติกรรมบางอย่างที่ต่างไปอย่างสิ้นเชิง ดังนั้นจะเห็นว่าแต่ละยุคมีรูปแบบของสังคมที่แตกต่างกันและส่งผลถึงแนวคิด ทัศนคติ ค่านิยม ซึ่งอาจจะทำให้การสื่อสารระหว่างกันเกิดปัญหาตามมาได้

นอกจากนี้ ในช่วง COVID-19 เราจะพบปัญหาเรื่องการสื่อสารในอีกรูปแบบหนึ่ง จากการเรียนการสอนผ่านระบบออนไลน์ เช่น เด็กเผชิญความเครียดจากการเรียนออนไลน์ ไม่ได้พบเพื่อน ขาดการปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น ประสบปัญหาในการทำงานกลุ่ม รวมถึงปัญหาความเหลื่อมล้ำที่ทำให้เกิดความรู้สึกไม่เท่าเทียม รวมถึงบางครอบครัวประสบปัญหาทางเศรษฐกิจ เช่น มีมือถือ หรือคอมพิวเตอร์เครื่องเดียว ที่ต้องแบ่งกันใช้งาน ทำให้เด็กเข้าไม่ถึงการสื่อสาร ไม่ได้รับข้อมูลที่สำคัญ ทำให้เด็กรู้สึกถึงความไม่ยุติธรรมในสังคม จนนำมาสู่รูปแบบพฤติกรรมที่อาจจะเกิดผลร้ายทั้งกับตนเองหรือผู้อื่น ที่สำคัญ การสื่อสารผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ จะมีแต่ข้อความ ไม่มีเสียง อาจทำให้เกิดการตีความไม่ตรงกัน ก็ทำให้ไม่เข้าใจกันได้ ก็จะยิ่งสร้างสถานการณ์ที่นำไปสู่ความขัดแย้ง ความเครียดที่รุนแรงมากขึ้น หรือแม้แต่ในสถานการณ์ปกติ เด็กหลายคนประสบปัญหาต่าง ๆ มากมาย เช่น ปัญหาสภาพเศรษฐกิจที่ครอบครัวต้องแบกรับ

จากภาพรวมปัญหาที่กล่าวมา จะเห็นว่า คนรุ่นใหม่ต้องเผชิญปัญหามากมาย แต่หลายคนเลือกที่จะไม่ปรึกษาคนใกล้ชิดภายในครอบครัว หรือแม้แต่ครูอาจารย์ เพราะปัญหาด้านการสื่อสาร และความเข้าใจจากแต่ละยุคสมัยที่อาจจะไม่สอดคล้องกัน ทำให้เกิดช่องว่างในการสื่อสารขึ้น ตัวอย่างเช่น เด็กในระดับมหาวิทยาลัยบางคนที่มาใช้บริการการให้คำปรึกษา มักจะไม่ให้ครูอาจารย์คุยกับพ่อแม่หรือผู้ปกครองโดยตรง เนื่องจากเด็กอาจจะไม่อยากให้ครอบครัวรับรู้ว่าตนเองกำลังเผชิญหน้ากับปัญหาอะไร ซึ่งอาจจะเกิดจากความกลัวพ่อแม่หรือผู้ปกครองเสียใจ เครียด หรือกลัวถูกการลงโทษ ดังนั้น ครูอาจารย์จะมีบทบาทเข้ามาช่วยเหลือเด็กมากขึ้นในการให้คำปรึกษา และร่วมแก้ไขปัญหาต่างๆ ทั้งยังมีบทบาทในการเป็นคนกลางที่จะพูดคุย สื่อสารระหว่างเด็กกับผู้ปกครอง ซึ่งจะช่วยในการแก้ปัญหาและลดช่องว่างต่างๆได้

14 March 2565

ที่มา โพสต์ทูเดย์

Posted By Thongpet/kanchana/Maneewan

Views, 675

 

Preset Colors