02 149 5555 ถึง 60

 

"อนุทิน" แจงโอมิครอน BA.2 แพร่เร็ว แต่ยังป้องกันได้ อย่าเชื่อคนด้อยค่า "ซิโนแวค" ห้ามฉีดเด็ก

"อนุทิน" แจงโอมิครอน BA.2 แพร่เร็ว แต่ยังป้องกันได้ อย่าเชื่อคนด้อยค่า "ซิโนแวค" ห้ามฉีดเด็ก

"อนุทิน" แจงโอมิครอน BA.2 แม้แพร่เร็ว แต่ยังป้องกันได้เหมือนเดิม ขอมาฉีดบูสเตอร์โดส โดยเฉพาะสูงอายุที่เสี่ยงรุนแรงและเสียชีวิตง่าย ขออย่าเชื่อคนด้อยค่า "ซิโนแวค" ห้ามฉีดเด็ก ชี้มีประสิทธิภาพถึงอนุมัติให้ใช้

เมื่อวันที่ 17 ก.พ. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณีโอมิครอนสายพันธุ์ BA.2 ที่แพร่เร็วกว่า BA.1 ซึ่งมีแนวโน้มพบเพิ่มมากขึ้น ว่า ระบบเฝ้าระวังเป็นการเฝ้าระวังทุกสายพันธุ์อยู่แล้ว โดยขอให้ยึดหลักการป้องกันตนเองสูงสุด (Universal Prevention) อย่างเคร่งครัด ระวังตลอดเวลาก็ป้องกันความเสี่ยงจากโควิดได้มากทุกสายพันธุ์ ส่วนตัวเลขผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นเราก็พยายามควบคุมทุกอย่าง ส่วนใหญ่อยู่ใน กทม. ติดเชื้อในครอบครัวเป็นส่วนใหญ่ ถือว่าสายพันธุ์โอมิครอนยังไม่ทำให้ผู้ป่วยเกิดอาการรุนแรงเหมือนที่ผ่านมา ถ้าคนฉีดวัคซีนมากขึ้น ตอนนี้เราฉีดบูสเตอร์โดสให้มากที่สุด ก็น่าจะช่วยประคับประคองสถานการณ์ได้ อัตราผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงและเสียชีวิตยังอยู่ในเกณฑ์ที่ยังควบคุมสถานกาณณ์ได้เช่นกัน

เมื่อถามถึงกรณีเชียงใหม่ที่มีการติดเชื้อสูงขึ้น แต่การเข้ารักษา HI ติดต่อยากนั้น นายอนุทินกล่าวว่า จะให้ปลัด สธ.ไปติดตามและหาทางพัฒนาระบบขึ้นมา เรามีเกณฑ์อยู่แล้ว สิ่งที่ทำให้ระบบสาธารณสุขรองรับโควิดได้ เพราะประชาชนให้ความร่วมมือรักษาตัวเองโดยเข้า HI และเรามีการกำหนดเกณฑ์อาการว่า อาการเป็นเช่นไร สธ.จะให้บริการตามอาการที่เกิดขึ้น ก็ต้องขอบคุณความร่วมมือประชาชนทุกคน

ถามถึงกรณีผู้สูงอายุ 2.2 ล้านคนยังไม่ได้ฉีดวัคซีน นายอนุทินกล่าวว่า ก็ต้องฝากให้ลูกหลานหรือแม้กระทั่งผู้สูงอายุทุกท่านต้องมาฉีด เพราะหากฉีดแล้วจะเกิดความปลอดภัยแน่นอน สถิติการศึกษาวิจัยแสดงชัดเจนว่าผู้รับวัคซีนมีความปลอดภัยจากการเจ็บป่วยรุนแรงและเสียชีวิตเป็นหลายร้อยเท่า ไม่มีเหตุผลอื่นอธิบายนอกจากว่าควรจะมาฉีด วัคซีนไม่มีอันตรายอย่างแน่นอน มีมาตรฐาน ฉีดเกิน 120 ล้านเข็มแล้วทั่วประเทศ ไม่มีเหตุการณ์รุนแรงอะไรที่เราไม่ได้คาดหวังหรือก่อให้เกิดสถานการณ์ที่รุนแรงเกินกว่าที่เราจะรับได้

ส่วนการฉีดนักเรียนก็เร่งทำการฉีด มีทั้งไฟเซอร์ ซิโนแวคดีทั้งนั้น อย่าเชื่อคนด้อยค่าว่าซิโนแวคฉีดเด็กไม่ได้ ซึ่งก็ฉีดคนจีนทั้งประเทศ 2 พันล้านคน ประเทศจีนก็ไม่เคยมีปัญหาเรื่องของการติดเชื้อ การเสียชีวิตหรือตาย และไม่มียี่ห้ออื่นในจีน ก็ต้องถือว่าคนจำนวนเกือบ 2 พันล้านคนก็เป็นการพิสูจน์ชัดเจนว่าวัคซีนเขาก็เวิร์ก เราก็มีทุกตระกูลให้คนไทยได้เลือก โดยเฉพาะตระกูลหลักๆ ซึ่งหากไม่มีประสิทธิผลประสิทธิภาพ อย.ก็ไม่สามารถอนุมัติขึ้นทะเบียนได้ เราอนุมัติทุกยี่ห้อแปลว่ามีมาตรฐาน ต้องฟัง สธ.เรื่องวัคซีน เพราะเราก็ฟังข้อชี้แนะจากอาจารย์ด้านการแพทย์ คณะกรรมการวิชาการ คณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคเป็นผู้ทรงคุณวุฒิเกี่ยวข้องโดยตรง เรามีที่อ้างอิงรับรองความปลอดภัย คนพูดลอยๆ ว่าวัคซีนนั้นไม่มี ก็ไม่มีอ้างอิง เราต้องเชื่อวิชาการ

"การติดเชื้อเพิ่มขึ้นเพราะเชื้อโอมิครอน บทวิจัยบทศึกษาชัดว่าติดง่ายกว่าเชื้อเดลตา การติดเชื้อที่เพิ่มมากขึ้น เราถึงต้องเน้นคนมาฉีดวัคซีนมากที่สุด เพราะหากฉีดแล้วการ์ดตกไปบ้างติดเชื้อก็ไม่มีอาการ ซึ่งมากกว่า 85% ติดเชื้อก็ไม่มีอาการ คนเสียชีวิตมากกว่า 90% คือไม่รับวัคซีนและเป็นกลุ่มเสี่ยงสูง มันยังอยู่ในเกณฑ์กรอบของการควบคุมโรคอยู่ ไม่ได้ต้องการให้เกิดเหตุอย่างนี้ เราพยายามควบคุมให้สูญเสียน้อยที่สุด" นายอนุทินกล่าวและว่า ส่วนเตียงรองรับโควิดไม่มีปัญหา เพราะคนร่วมมือ HI CI ถ้ารับความร่วมมือเช่นนี้ เตียงก็ไม่มีปัญหา ก็กำหนดมาตรฐานของระดับอาการว่า ถึงระดับอาการไหนใช้วิธีการรักษาอย่างไร

ด้าน นพ. โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ไม่อยากให้ประชาชนกังวลกับสายพันธุ์ของโอมิครอน ไม่ว่าจะเป็น BA.1 BA.2 เพราะการป้องกันการรักษายังเหมือนเดิม ยังต้องสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือ และมีระยะห่าง และการรับวัคซีนเข็มกระตุ้นหรือเข็ม 3 เพราะการแพร่เชื้อของ BA .2 เร็วขึ้น แต่ความรุนแรง และการหลบภูมิคุ้มกันยังไม่ต่างจาก BA.1 และ องค์การอนามัยโลกยังไม่ได้จัดให้เป็นสายพันธุ์ใหม่หรือเฝ้าระวัง ขณะเดียวกันกรมควบคุมโรค กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และกรมการแพทย์ ยังติดตามข้อมูลอย่างต่อเนื่อง จึงไม่อยากให้ประชาชนกังวล คาดว่าความวิตกกังวลของประชาชนในขณะนี้เกิดจากข้อมูลที่มากล้น

"การใส่หน้ากากอนามัยป้องกันโรคได้ดี แม้ว่าโรคนี้จะติดง่ายหรือสายพันธุ์ไหนก็ตาม เชื้อไวรัสทะลุหน้ากากไปไม่ได้ ส่วนที่มีคนตั้งคำถามแค่พูดคุยกันไม่นานเพียง 15 นาที ทำไมถึงติดเชื้อ หากใส่หน้ากากกัน ก็ไม่ต้องกังวล เพราะถือว่าความเสี่ยงต่ำ ส่วนอัตราป่วยหนักและใส่ท่อช่วยหายใจ ขณะนี้ยังไม่ได้เพิ่มสูงขึ้นกว่าเดิม ตรงกันข้ามอัตราตายของไทยต่ำกว่าต้นเดือนที่ผ่านมา จากเดิม 0.22 เหลือ 0.20 และถือว่าน้อยกว่าทั่วโลก โดยอัตราตายของทั่วโลก จากเดิมอยู่ที่ 2.2 ขณะนี้เหลือ 1.4 แต่คนเสียชีวิตส่วนใหญ่ยังเป็นผู้สูงอายุ จึงอยากเชิญชวญให้มารับวัคซีน ขณะเดียวกันบ้านคนหนุ่มสาวที่มีผู้สูงอายุอาศัยอยู่ด้วยก็ขอให้ระวังระวังตนเองให้ดี เพื่อป้องกันคนในบ้านได้รับเชื้อเนื่องจาก ส่วนใหญ่สาเหตุการติดเชื้อในผู้สูงอายุมากจากการรับเชื้อจากคนในครอบครัว" นพ.โอภาสกล่าว

18 February 2565

ที่มา ผู้จัดการ ออนไลน์

Posted By Thongpet/kanchana/Maneewan

Views, 403

 

Preset Colors