02 149 5555 ถึง 60

 

สธ.เผยยา “โมลนูพิราเวียร์” รักษาโควิดอาการเล็กน้อย-ปานกลาง ได้ผลดี ย้ำห้ามใช้กับเด็ก-คนท้อง

สธ.เผยยา “โมลนูพิราเวียร์” รักษาโควิดอาการเล็กน้อย-ปานกลาง ได้ผลดี ย้ำห้ามใช้กับเด็ก-คนท้อง เตรียมสั่งซื้อ คาดเข้าไทย ธ.ค.นี้

สธ.เผย“ยาโมลนูพิราเวียร์” รักษาโควิด-19 อาการเล็กน้อย ถึงปานกลาง ได้ผลดี ช่วยลดการนอนโรงพยาบาลและป้องกันการเสียชีวิต เมื่อได้รับยาภายใน 5 วัน ยังไม่ควรใช้กับสตรีมีครรภ์และเด็ก ชี้ จัดทำหนังสือสัญญาซื้อขายเสร็จแล้ว เหลือเพียง FDA อเมริกา-อย.ไทย อนุมัติ คาดนำเข้ามาใช้ได้สิ้นปีนี้ พร้อมเตรียมศึกษาใช้เพื่อป้องกันหลังสัมผัสผู้ติดเชื้อ นำร่อง 5 โรงพยาบาล รพ.ราชวิถี ร่วมด้วย

วันนี้ (6 ต.ค.) ที่ศูนย์แถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ แถลงข่าวความคืบหน้ายาต้านไวรัสโควิด-19 “ยาโมลนูพิราเวียร์” ว่า ยาโมลนูพิราเวียร์เป็นยาต้านไวรัส มีกลไกออกฤทธิ์ยับยั้งการแบ่งตัวของเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้เกือบทุกสายพันธุ์ที่มีอยู่ในปัจจุบัน ทั้งสายพันธุ์ดั้งเดิม เดลตา แกมมา หรือ มิว ทั้งนี้ จากการศึกษาวิจัยแบบ MOVE-IN Trial ในผู้ป่วยอาการหนักพบว่าไม่ได้ผล แต่การศึกษาแบบ MOVE-OUT Trial ในผู้ป่วยอาการเล็กน้อย ถึงปานกลาง ที่ไม่ได้รับวัคซีน และมีปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดอาการรุนแรงอย่างน้อย 1 ปัจจัย ได้แก่ ภาวะอ้วน อายุมากกว่า 60 ปี เบาหวาน โรคหัวใจ และโรคมะเร็ง โดยให้ยาภายใน 5 วันตั้งแต่เริ่มมีอาการ พบว่าได้ผลดี

“จากการศึกษาผู้ป่วยในระยะที่ 3 จำนวน 775 ราย แบ่งเป็นกลุ่มได้รับยาโมลนูพิราเวียร์ 385 ราย ขนาด 800 มิลลิกรัม วันละ 2 เวลาเช้าและเย็น เป็นเวลา 5 วัน และกลุ่มได้ยาหลอก 377 ราย พบว่า ผู้ป่วยที่ได้รับยาโมลนูพิราเวียร์ลดความเสี่ยงนอนโรงพยาบาลลงร้อยละ 50 และไม่มีผู้เสียชีวิต แต่การศึกษายังไม่ครอบคลุมถึงกลุ่มหญิงตั้งครรภ์และในเด็ก” นายแพทย์สมศักดิ์กล่าว

นายแพทย์สมศักดิ์ กล่าวต่อว่า การนำเข้ามาใช้ในประเทศไทยนั้น ต้องรอบริษัทผู้ผลิตขึ้นทะเบียนใช้ในกรณีฉุกเฉินกับ อย.สหรัฐฯ ก่อน แล้วจึงมาขึ้นทะเบียนกับ อย.ประเทศไทย คาดว่า จะนำเข้ามาได้จริงในช่วงธันวาคม 2564 - มกราคม 2565 โดยบริษัทคิดราคาตามลักษณะรายได้ของแต่ละประเทศ ซึ่งประเทศไทยอยู่ในกลุ่มประเทศรายได้ปานกลางก็จะซื้อได้ในราคาถูกกว่าประเทศรายได้สูง สำหรับการนำมาใช้ขณะนี้ได้เชิญผู้เชี่ยวชาญมาร่วมพิจารณาข้อมูลยาโมลนูพิราเวียร์ว่าจะนำมาใช้แทนยาฟาวิพิราเวียร์ หรือใช้ควบคู่ หรือใช้ร่วมกันเป็นสูตรค็อกเทล

นอกจากนี้ ยังมีโครงการ MOVE-AHEAD หรือการศึกษายาโมลนูพิราเวียร์ในการป้องกันการติดเชื้อในผู้ที่สัมผัสกับผู้ติดเชื้อหรือผู้ป่วยโควิดแล้ว เป็นลักษณะของยา PEP ที่รับประทานเพื่อป้องกันโดยจะศึกษาในประเทศไทยในโรงพยาบาล 5 แห่ง ซึ่งมีโรงพยาบาลราชวิถี ร่วมด้วย อยู่ระหว่างขออนุมัติคณะกรรมการจริยธรรมการวิจัยในคน คาดว่า จะทำการศึกษาได้ในเดือนธันวาคมนี้

7 October 2564

ที่มา ผู้จัดการ ออนไลน์

Posted By Thongpet/kanchana/Maneewan

Views, 406

 

Preset Colors