02 149 5555 ถึง 60

 

ไขข้อข้องใจ ทำไมต้องเว้นระยะฉีดวัคซีนนานๆ

ไขข้อข้องใจ ทำไมต้องเว้นระยะฉีดวัคซีนนานๆ

ควรยืดเวลาการฉีดวัคซีนเข็มที่สองเพื่อฉีดวัคซีนเข็มแรกให้ได้มากที่สุดก่อน หรือควรจะยึดตามช่วงเวลาที่กำหนดในการทดลองทางคลินิกเพื่อให้วัคซีนมีประสิทธิภาพมากที่สุด

เมื่ต้องเผชิญกับการขาดแคลนวัคซีน หลายประเทศรวมทั้งไทยกำลังใช้นโยบายเว้นระยะห่างระหว่างวัคซีนเข็มแรกกับเข็มที่สองออกไปนานสูงสุดถึง 16 สัปดาห์ ทำให้เกิดข้อถกเถียงตามมาว่าควรจะยืดเวลาการฉีดวัคซีนเข็มที่สองเพื่อฉีดวัคซีนเข็มแรกให้ประชาชนได้มากที่สุดก่อน หรือควรจะยึดตามช่วงเวลาที่กำหนดในการทดลองทางคลินิกเพื่อให้วัคซีนมีประสิทธิภาพมากที่สุด

WHO ว่าอย่างไร

ตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก (WHO) ณ วันที่ 21 เม.ย. คือให้ฉีดห่างกัน 3-4 สัปดาห์ แต่ตามหลักฐานเท่าที่มีอยู่ในขณะนี้ อาจเว้นช่วงได้นานถึง 6 สัปดาห์ขึ้นอยู่กับวัคซีน หรือไปจนถึง 12 สัปดาห์ในวัคซีนบางเจ้า

ผู้ผลิตแนะนำอย่างไร

Pfizer ผู้ผลิตวัคซีนจากสหรัฐ แนะนำให้เว้นระยะห่างกัน 21 วัน โดยให้เหตุผลว่า การศึกษาในระยะที่ 3 ของวัคซีน Pfizer/BioNTech ถูกออกแบบให้ประเมินความปลอดภัยและประสิทธิภาพของวัคซีน 2 โดสที่ฉีดห่างกัน 21 วันเท่านั้น ไม่ได้ประเมินผลในช่วงระยะเวลาอื่น และผลออกมาว่า แม้ว่าการป้องกันจากวัคซีนจะเริ่มขึ้นหลังฉีดโดสแรก 12 วัน ก็ต้องฉีดวัคซีนให้ครบ 2 โดสเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดที่ 95% และ Pfizer ไม่มีข้อมูลจากการศึกษาดังกล่าวที่แสดงให้เห็นว่าการป้องกันที่เกิดจากวัคซีนเข็มแรกคงอยู่หลังผ่านไป 21 วัน

ส่วน Moderna แนะนำให้ฉีดห่างกัน 1 เดือน Astrazeneca แนะนำไว้ที่ 4-12 สัปดาห์ Sinovac ควรฉีดห่างกัน 2-4 สัปดาห์ และ Sinopharm ควรฉีดห่างกัน 3-4 สัปดาห์

สหรัฐฉีดห่างกันกี่วัน

ตามคำแนะนำของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐ (CDC) ระบุว่าควรฉีดวัคซีน Pfizer เข็มที่สองหลังได้รับเข็มแรก 21 วัน และ Moderna 28 วัน แต่หากจำเป็นก็สามารถเว้นระยะระหว่างเข็มแรกและเข็มที่สองห่างกันได้สูงสุดไม่เกิน 42 วัน หรือ 6 สัปดาห์

หลายประเทศยืดไปถึง 16 สัปดาห์

แต่ขณะนี้มีหลายประเทศเว้นช่วงการฉีดเข็มแรกกับเข็มที่สองออกไป 12 สัปดาห์ อาทิ อังกฤษ และ 16 สัปดาห์ เช่น ไทย แคนาดา

หลักฐานสนับสนุน

ข้อมูลสนับสนุนประสิทธิภาพของการยืดระยะเวลาฉีดวัคซีนเข็มที่สองคือ การศึกษาร่วมกันระหว่างกระทรวงสาธารณสุขอังกฤษ (PHE) และมหาวิทยาลัยเบอร์มิงแฮมที่พบว่า แอนติบอดีของอาสาสมัครอายุ 80 ปีขึ้นไปที่ฉีดวัคซีนห่างกัน 12 สัปดาห์สูงกว่า 3.5 เท่าของอาสาสมัครที่ฉีดห่างกัน 3 สัปดาห์

ทีมวิจัยจึงสรุปว่า การเว้นระยะห่างระหว่างเข็มแรกกับเข็มสองราว 12 สัปดาห์ช่วยเพิ่มภูมคุ้มกันได้ดีขึ้น และวัคซีน AstraZeneca เพียงเข็มเดียวมีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อแบบมีอาการในช่วง 90 วันแรกได้ 76.0%

ทว่า ในเวลาต่อมาสำนักงานสาธารณสุขอังกฤษ เผยแพร่งานวิจัยประสิทธิผลป้องกันการติดเชื้อแบบมีอาการของวัคซีน AstraZeneca และ Pfizer ต่อสายพันธุ์เดลตา (B.1.617.2) ซึ่งพบครั้งแรกในอินเดียว่า วัคซีนเข็มเดียวมีประสิทธิภาพ 33% (วิเคราะห์รวมทั้ง 2 ยี่ห้อ) แต่ถ้าฉีดครบ 2 เข็มวัคซีน AstraZeneca จะมีประสิทธิภาพเพิ่มเป็น 60% ส่วนวัคซีน Pfizer จะมีประสิทธิภาพ 88%

เมื่อพบการระบาดของสายพันธุ์เดลตามากขึ้น อังกฤษจึงปรับคำแนะนำในการฉีดวัคซีน AstraZeneca โดยเลื่อนการฉีดเข็มที่ 2 ขึ้นมาที่ 8-9 สัปดาห์ในกลุ่มเสี่ยงต่ออาการรุนแรง ส่วนกลุ่มอื่นยังเป็น 11-12 สัปดาห์เหมือนเดิม

ขณะที่ผลการศึกษาของสหรัฐซึ่งตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์ BMJ ของอังกฤษซึ่งใช้รูปแบบจำลองจากตัวอย่างการใช้งานจริงในชาวอเมริกันวัยผู้ใหญ่ 100,000 คนพบว่า การยืดระยะการฉีดวัคซีนเข็มที่สองจะลดตัวเลขเสียชีวิต การติดเชื้อ และการรักษาตัวในโรงพยาบาลสะสมภายใต้เงื่อนไขเฉพาะ อาทิ การมีวัคซีนเข็มแรกที่มีประสิทธิภาพอย่างน้อย 80% ขึ้นไป และมีอัตราการฉีดวัคซีน 0.1-0.3% ของประชากรทั้งหมดต่อวัน โดยช่วยป้องกันการเสียชีวิตได้ระหว่าง 26-47 คนต่อประชากร 100,000 คน เมื่อเทียบกับการฉีดวัคซีนเข็มที่สองตามปกติ

ผู้เชี่ยวชาญไม่แนะนำ

อย่างไรก็ดี การวิจัยนี้ไม่แนะนำให้ยืดระยะเวลาการฉีดวัคซีนเข็มที่สอง โดยทีมวิจัยเผยว่า “ผู้มีอำนาจตัดสินใจต้องพิจารณาอัตราการฉีดวัคซีนในประเทศตัวเอง และชั่งน้ำหนักระหว่างประโยชน์ของการเพิ่มอัตราการฉีดด้วยการยืดระยะเวลาฉีดเข็มที่สอง กับความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับความไม่แน่นอนของยุทธศาสตร์นี้”

ขณะที่ แอนโธนี ฟาวซี ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อของสหรัฐเผยกับ Washington Post ว่า วิทยาศาสตร์ไม่สนับสนุนการยืดระยะการฉีดวัคซีน Pfizer/BioNTech และ Moderna เข็มที่สอง เนื่องจากยังไม่มีหลักฐานเพียงพอที่จะระบุได้ว่าวัคซีนโดสเดียวจะป้องกันการติดเชื้อได้มากน้อยเพียงใดและจะอยู่ได้นานเท่าไร

ด้าน Pfizer ระบุว่า ไม่มีหลักฐานทางคลินิกใดที่สนับสนุนแนวทางการขยายเวลาฉีดวัคซีนเข็มที่สองออกไปเป็น 12 สัปดาห์ของรัฐบาลอังกฤษ

ยวชาญด้านการสร้างภูมิคุ้มกันของ WHO เตือนว่า ประเทศต่างๆ จะต้องพิจารณาว่าสายพันธุ์ที่ระบาดอยู่ในภูมิภาคของตนจะเพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อหรือไม่หลังจากฉีดวัคซีนเพียงครั้งเดียว ก่อนตัดสินใจใช้แนวทางการยืดระยะเวลาวัควีนเข็มแรกกับเข็มที่สอง

ส่วน สตีเวน กริฟฟิน นักไวรัสวิทยาจากมหาวิทยาลัยลีดส์ของอังกฤษเผยว่า สำหรับอังกฤษการยืดระยะเวลาระหว่างโดสเป็นตัวเลือกที่ถูกต้อง แต่การล็อกดาวน์ก็มีส่วนในความสำเร็จนี้ด้วย “ในทางทฤษฎีผู้คนจะมีความเปราะบางระหว่างโดสแรกกับโดสที่สอง แต่สิ่งที่ได้ผลในอังกฤษคือการรักษามาตรการป้องกันต่างๆ ควบคู่ไปกับการฉีดวัคซีน”

10 June 2564

ที่มา โพสต์ทูเดย์

Posted By Thongpet/kanchana/Maneewan

Views, 45218

 

Preset Colors