02 149 5555 ถึง 60

 

บ่มความคิดพิชิตความสำเร็จ

บ่มความคิดพิชิตความสำเร็จ

ความคิดป็นสิ่งที่ทรงพลังอย่างเหลือเชื่อ ความคิดของคน ๆ หนึ่งสามารถทำให้คน ๆ นั้นเป็นวีรบุรุษที่น่าจดจำ ในขณะเดียวกันความคิดก็เป็นตัวกดความสามารถของมนุษย์ให้กลายเป็นเพียงผงธุลี

กระนั้นก็ตาม เราเหมือนคนส่วนใหญ่หรือไม่ ที่มักไม่ได้ใช้เวลามองความคิดของตัวเอง เราปล่อยความคิดให้ลอยล่องไปตามอารมณ์ หากเราเป็นคนที่มองความคิดของเราได้ เราจะสามารถใช้วิจารณญาณปรับความคิด และความเลอค่าของความคิดนั้นส่งผลโดยตรงต่อพฤติกรรม จนในที่สุดพฤติกรรมคือสิ่งที่ปรากฎในชีวิตของมนุษย์อย่างเป็นรูปธรรม

เป็นสิ่งที่โยงใยอย่างไม่รู้จบ ระหว่างความคิด อารมณ์ และพฤติกรรม เมื่อเราคิดบวก คิดดี จะส่งผลให้เรารู้สึกดีทันทีที่คิด และจะแสดงออกมาซึ่งพฤติกรรมที่เป็นผลบวก เช่น เมื่อเราคิดว่า เราคือผู้ประสบความสำเร็จ ทันทีที่คิดเราได้ความรู้สึกปลาบปลิ้มแบบคนประสบความสำเร็จ อิ่มเอมใจจนอยากผลักดันตัวเองให้ทำสิ่งดี ๆ และแต่ละวันเราจะใช้ชีวิตแบบคนประสบความสำเร็จ จนในที่สุด เราก็ประสบความสำเร็จตามที่มุ่งหวัง ซึ่งวงจรความคิดนี้ก็เกิดขึ้นกับคนที่คิดลบเช่นเดียวกัน เช่น

เริ่มต้นด้วยการคิดลบ : คนเราทุกคนมีข้อจำกัด เราเองก็เป็นคนไม่อดทน > ส่งผลให้เรารู้สึกเหมือนคนล้มเหลวทันทีที่คิด (ทั้งๆที่ยังไม่มีอะไรล้มเหลว) > แสดงออกซึ่งพฤติกรรมแบบคนไม่สำเร็จ > สะสมนานวันผลสรุปที่ออกมาคือ "ไม่สำเร็จ"

ดังนั้นหากอยากให้ชีวิตประสบความสำเร็จ ต้องเริ่มต้นจากการเปลี่ยนความคิดก่อน จึงจะส่งผลต่อความรู้สึกอยากทำ อยากสู้ และพฤติกรรมก็จะเป็นไปแบบนักสู้ สุดท้ายก็ได้สิ่งที่คาดหวัง

คนคิดเก่งคือคนที่มีความสามารถอย่างแท้จริง แม้จะล้มลุกคลุกคลาน อุปสรรคถ่าโถมเข้ามาแค่ไหน หากรู้จักมองความคิดของตัวเองให้เป็น และใช้วิจารณญาณในการปรับแก้ตั้งแต่เริ่มคิด เราจะมีพลังชีวิตในการต่อสู้ แม้ว่าปัญหาชีวิตจะเข้ามาสักเพียงใดก็ตาม

บางครั้งความคิดลบก็เข้ามาโดยไม่ทันตั้งตัว แต่มนุษย์สามารถหยุดมองความคิด ตัดสินว่าอะไรควรไม่ควรได้ ทั้งนี้เราควรหัดเลิกบางพฤติกรรมที่เราคิดว่า มันคือ "ตัวของเราเอง" "เราเป็นแบบนี้แหละ" หากความคิดเหล่านี้มันส่งผลให้พฤติกรรมชีวิตของเราในแต่ละวันว่างเปล่า ไม่อิ่มเอมใจ ไม่ภาคภูมิใจ เราสามารถปรับความรู้สึก โดยหักล้างความคิดลบเสียก่อน โดยหาสิ่งดีงามใส่ลงไปในความคิดเริ่มต้น

ความคิดลบ

นาย ก พยายามเลือกคณะไม่ต้องใช้คะแนนสูงเพราะ นาย ก มองว่าตัวเองไม่น่าไหว ตัวเองเรียนไม่เก่ง > ทันทีที่คิด ก็รู้สึกห่อเหี่ยวคล้ายคนล้มเหลว > จึงทำให้ใช้ชีวิตแต่ละวันไม่ไปในทิศทางของคนที่จะได้คะแนนสูง เน้นเที่ยวเล่น พักผ่อน เป็นกิจวัตร อ่านหนังสือเป็นเรื่องรอง > สุดท้าย นาย ก ก็ไม่สำเร็จในการเรียน

ความคิดบวก

นาย ก อยากเรียนทางบริหาร มาช่วยกิจการพ่อแม่ แบ่งเบาภาระ > ทันทีที่คิดรู้สึกหึกเหิม จึงขวนขวายหาที่เรียนพิเศษ > เมื่อเจออุปสรรคความยากของเนื้อหา นาย ก หันไปนึกถึงพ่อแม่ทุกครั้งและสู้ อดทน เพียรฝึก การใช้ชีวิตแต่ละวันของนาย ก เป็นแบบนี้ > ในที่สุด นาย ก คือ บุคคลที่สอบได้คะแนนดี

หากเราลองหยุดมองดูความคิดตัวเองสักนิด มองว่าจุดเริ่มต้นของสิ่งที่เราทำทุกวันนี้คืออะไร มันบวกหรือลบ บางคนอาจมองว่าตัวเองเก่งแล้ว เป็นหัวหน้าที่ดีแล้ว หากเทียบกับ... บางคนอาจมองว่าตนไม่มีคุณสมบัติต่างๆนานา สิ่งสำคัญก็คืออย่าให้ความคิดของเราเองมาเป็นตัวจำกัดความสามารถของเราที่จะพัฒนาปรับต่อไปได้ สิ่งที่เราคิดอาจไม่ได้เป็นความจริงดังที่คิด ในความล้มเหลวของเรามีความสำเร็จซ่อนอยู่ ในความพลาดที่ผ่านมาเราอาจขาดคุณสมบัติบางอย่างไปเพียงเล็กน้อย แต่ในขณะเดียวกันทุกความสำเร็จของเราอาจมีความล้มเหลวซ่อนอยู่ เพราะเราอาจได้รับชัยชนะที่ผ่านมา ที่เชือดเฉือนออกมานิดเดียวจากความล้มเหลวก็เป็นได้

ดังนั้นเมื่อไรก็ตามที่เราเฝ้ามองชีวิตผู้อื่นด้วยความโหยหา พึงระลึกไว้ว่าเราอาจไม่ต้องการรับมือหรือทนกับอุปสรรคที่ผู้นั้นแบกรับอยู่ บุคคลที่มีชีวิตน่าอิจฉาที่นั่งอยู่ต่อหน้าเรานั้น ช่างมีชีวิตที่สุขสงบประดุจมหาสมุทรที่สงบนิ่งอาบไปด้วยแสงตะวันอันงดงาม โดยที่เราอาจไม่ทราบว่ามหาสมุทรที่สวยงามนั้น อาจเคยมีช่วงพายุมรสุมพัดโหมเข้ามาอย่างหนักก็เป็นได้

ขอให้เราเริ่มมองความคิดเป็นบวกในแต่ละวัน ก่อนที่จะรู้สึกหรือลงมือทำ เพื่อพัฒนาสิ่งดีงามนั้นจนออกมาเป็นความจริงที่ปรากฎในชีวิตอันยิ่งใหญ่ของเรา

8 August 2562

ที่มา ผู้จัดการ ออนไลน์

Posted By Nitayaporn/Bungon/Thongpet/Kanchana

Views, 1040

 

Preset Colors