02 149 5555 ถึง 60

 

หลัก9ข้อง่ายๆดูแลสุขภาพ เพื่อชีวิตสดใสในวัยสูงอายุ

หลัก9ข้อง่ายๆดูแลสุขภาพ เพื่อชีวิตสดใสในวัยสูงอายุ

สัปดาห์นี้แพทย์แนะหลัก 9 ประการ เพื่อชีวิตสดใสในวัยสูงอายุ เป็นแนวทางให้ร่างกายแข็งแรง ดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างมีความสุขเหมาะกับวัย

คุณยาย OK มาแล้ววววว มาพร้อมกับวิธีการดูแลตัวเองสำหรับสูงวัย ซึ่งครั้งนี้จะเป็นเรื่องอะไรไม่ได้ นอกจากปัญหาสุขภาพของผู้สูงอายุ โดยเฉพาะ “กลุ่มโรคเรื้อรัง” ก็อย่างที่คุณ ๆ ท่าน ๆ รู้จักกัน พวกโรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน หรือโรคภาวะสมองเสื่อม ฯลฯ ที่เป็นปัญหาทางสาธารณสุขที่สำคัญของประเทศ

โดยมีตัวเลขค่าเฉลี่ยที่น่าสนใจจาก นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ บอกว่า อัตราการเกิดโรคในผู้สูงอายุเป็นแบบทวีคูณ คือ ร้อยละ 1-2 ในประชากรอายุ 60-69 ปี ซึ่งจะเพิ่มเป็นร้อยละ 8 ในประชากรอายุ 70-79 ปี และร้อยละ 50 หรือ 1 ใน 2 ของผู้สูงอายุที่อายุ 85 ปีขึ้นไป

ทุกคนจะเห็นว่าตัวเลข...ยิ่งอายุมาก ความเสี่ยงที่จะเกิดโรคก็ยิ่งเพิ่มขึ้นตามไปด้วยนั่นเอง บางท่านตามแบบแพ็กเกจ โรครุมสารพัดจนรู้สึกท้อแท้ได้

ทั้งนี้สถาบันเวชศาสตร์สมเด็จพระสังฆราชญาณสังวรเพื่อผู้สูงอายุ ได้ดำเนินโครงการสำคัญระหว่างปี พ.ศ. 2562-2565 เพื่อรองรับ “สังคมผู้สูงอายุ” โดยมีเป้าหมายผู้สูงอายุสุขภาพดี และพัฒนาระบบดูแลด้านสุขภาพโดยนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาใช้ เพื่อส่งเสริมสุขภาวะที่ดีของผู้สูงอายุ ทำให้ผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตที่ดีอยู่กับครอบครัวและสังคมอย่างมีความสุข

ขณะที่ นพ.สกานต์ บุนนาค ผอ.สถาบันเวชศาสตร์สมเด็จพระสังฆราชญาณสังวรเพื่อผู้สูงอายุ ให้ข้อมูลว่า การมีสุขภาพที่ดีของผู้สูงอายุ เป็นสิ่งที่สำคัญที่จะทำให้ชีวิตดำรงอยู่ได้อย่างมีความสุข สามารถมีกิจกรรมต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและเหมาะสมกับวัย ดังนั้นการมีสุขภาพที่ดีในผู้สูงอายุ จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้สูงอายุและบุคคลในครอบครัวต้องการ

สำหรับข้อแนะนำสำหรับผู้สูงอายุให้มีสุขภาพดี ตามแนวทางการดูแลสุขภาพตนเอง 9 ประการ ซึ่งถือว่าเป็นกิจกรรมที่ควรปฏิบัติเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ มีดังต่อไปนี้

1.อาบน้ำทุกวัน แปรงฟันสะอาดอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เช้าและก่อนนอน เพื่อป้องกันไม่ให้ฟันสึกและเหงือกเป็นแผล ตรวจสุขภาพช่องปากอย่างน้อยปีละครั้ง

2.กินอาหารสุกสะอาด วันละ 3 มื้อให้ครบ 5 หมู่ ควรกินอาหารที่ย่อยง่าย ลดปริมาณอาหารในแต่ละมื้อลง เพิ่มจำนวนมื้ออาหารให้มากขึ้น

3.ออกกำลังกายสัปดาห์ละ 3 ครั้ง ครั้งละนิดไม่เกิน 30 นาที โดยเลือกชนิดการออกกำลังกายให้เหมาะสมกับสภาพร่างกาย เช่น การเดิน การวิ่งช้า ๆ การบริหารท่าทางต่าง ๆ การรำมวยจีน โยคะ เป็นต้น

4.ดื่มน้ำสุกสะอาด อย่าให้ขาดวันละ 6-8 แก้ว ซึ่งควรเป็นน้ำที่ปราศจาก สี กลิ่น ตะกอน

5.พักผ่อนให้เพียงพอ วันละ 6-8 ชม. ปลอดโปร่งแจ่มใส เนื่องจากการนอนเป็นกระบวนการทางธรรมชาติที่ช่วยรักษาสุขภาพให้มีความสมดุล

6.งดสิ่งเสพติด คบหาญาติมิตร ใกล้ชิดครอบครัว เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดี เป็นที่พึ่งทางใจให้บุตรหลาน ก่อให้เกิดความสุขอบอุ่นเป็นครอบครัวที่พึงปรารถนา

7.ดูแลบ้านเรือน ของใช้ เสื้อผ้า ให้สะอาด น่าใช้ ไม่เป็นที่แพร่ระบาดและการติดเชื้อโรค

8.ตรวจสุขภาพให้ถ้วนถี่ ปีละครั้งเป็นอย่างน้อย เป็นการสร้างโอกาสเพื่อทราบถึงภาวการณ์เปลี่ยนแปลงทางสุขภาพ เนื่องจากอายุที่เพิ่มขึ้นย่อมมีการเสื่อมของการทำหน้าที่ของระบบในร่างกาย

9.ฝักใฝ่ในธรรม ประกอบกรรมดี อารีต่อทุกคน โดยบำเพ็ญประโยชน์ต่อครอบครัวชุมชนและสังคม ส่งผลให้ได้รับการยอมรับนับถือจากผู้อื่น ก่อให้เกิดความสุขใจเมื่อนึกถึง เป็นการบ่มกุศลจิตให้เพิ่มพูน อันเป็นหลักยึดถือเป็นที่พึ่งที่ยั่งยืนอย่างแท้จริงของชีวิต....

30 April 2562

ที่มา เดลินิวส์

Posted By Nitayaporn/Bungon/Thongpet/Kanchana

Views, 626

 

Preset Colors