02 149 5555 ถึง 60

 

อ่านวันละนิด...เปิดโลกทัศน์วัยเก๋า

อ่านวันละนิด...เปิดโลกทัศน์วัยเก๋า

เห็นข่าวกระตุ้นการจับจ่ายช่วงสิ้นปี หนึ่งในนั้นคือการช็อปปิ้งหนังสือ เพื่อนำใบเสร็จไปลดหย่อนภาษี หรือที่คุ้นหูกันดีอย่างมาตรการ “ช้อปช่วยชาติ” ที่เริ่มตั้งแต่ 15 ธ.ค.61-16 ม.ค.62 ทั้งนี้ หลักใหญ่ใจความของแคมเปญดังกล่าว ส่วนหนึ่งก็เพื่อกระตุ้นการอ่าน ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบเล่ม หรือการอ่านแบบออนไลน์อย่าง e-Book งานนี้อดทำให้นึกไปถึงคุณตาคุณยายกับการอ่านเสียไม่ได้ เพราะอย่างที่รู้กันดีว่า ไม่เพียงช่วยสร้างความเพลิดเพลินให้กับหนอนหนังสือ แต่ยังทำให้ผู้สูงวัยเรียนรู้และก้าวทันโลกจากตัวอักษรด้วยเช่นกัน

ครูหลิ่น-อ.สุนที อัศวฬหะมงคล ข้าราชการบำนาญกรมศิลปากร ให้ข้อมูลว่า “ที่ผ่านมางานที่ทำในกรมศิลปากรก็คาบเกี่ยวกับหอสมุดแห่งชาติเช่นกัน ดังนั้นถ้าจะพูดถึงประโยชน์ของการอ่านกับผู้สูงอายุ สามารถให้ความรู้ในสิ่งที่แต่ละคนสนใจ และช่วยให้ผู้สูงวัยสามารถตามทันโลกกว้างได้ โดยเฉพาะผู้ที่ชอบการอ่านอยู่แล้ว ที่สำคัญยังช่วยพัฒนาสมองและทำให้เรียนรู้โลกในอีกมุมหนึ่ง อีกทั้งยังสะท้อนบุคลิกการเป็นคนที่ทันสมัย ไม่ใช่คนสูงวัยที่อ่อนแอ ดังนั้นจึงอยากแนะนำให้คนวัยหลัก 5 หลัก 6 ที่เกษียณข้าราชการก็ดี หรือเป็นผู้สูงวัยที่อยู่กับเย้าเฝ้ากับเรือน โดยการเพิ่มเติมความรู้ด้วยการไปท่องเที่ยวยัง “หอสมุดแห่งชาติ” เพราะที่นั่นไม่เพียงเดินทางสะดวกสบาย เนื่องจากตั้งอยู่ย่านเทเวศร์ แต่ยังมีหนังสือให้เลือกอ่านทั้งแบบรูปเล่มและเป็นแบบ e-Book โดยสามารถโหลดหนังสือที่สนใจ ซึ่งหอสมุดแห่งชาติได้จัดทำในรูปแบบออนไลน์เพื่อมาอ่านได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ที่สำคัญยังมีห้องพักให้นั่งและมีเครื่องปรับอากาศที่เย็นสบายไว้คอยบริการ ก็ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมสำหรับคนสูงวัยรักการอ่าน

ส่วนการโฟกัสไปที่รูปแบบหนังสือ ที่เหมาะกับคนหลัก 6 นั้น นอกจากเป็นรูปเล่มที่ตรงกับสไตล์ความชอบของท่านแล้ว เช่น หากเป็นคนสูงวัยที่ชอบดูภาพยนตร์ก็สามารถหา “นิตยสารรายงานหนังประจำสัปดาห์หรือประจำเดือน” มาอ่าน ก็จะช่วยสร้างความเพลิดเพลินได้เป็นอย่างดี หรือติดตามโปรแกรมหนังที่ชื่นชอบได้อย่างไม่พลาด หรือหากเป็นผู้สูงวัยที่ชอบการเดินทางและการท่องเที่ยว แนะนำให้อ่าน “นิตยสาร อ.ส.ท.” ก็จะทำให้ค้นพบสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ซึ่งล้วนแล้วแต่คัดกรองแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจมาไว้ให้คนหลัก 5 หลัก 6 ได้ตัดสินใจไปเยี่ยมชม

ที่สำคัญเมืองไทยเป็นเมืองพุทธ หนังสือที่เหมาะกับคุณตาคุณยายคือ “หนังสือธรรมะ” เพราะเป็นการอ่านที่ไม่เพียงทำให้จิตใจสงบ จากบทสวดมนต์ที่สอดแทรกอยู่ในเนื้อหา แต่เมื่ออ่านก็จะนำไปสู่การฝึกนั่งสมาธิ เพื่อทำจิตใจให้สงบและไม่ฟุ้งซ่าน นอกจากนี้ หนังสือพระที่เกี่ยวกับชีวประวัติของพระอริยสงฆ์ชื่อดังที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบอย่าง “ท่านพุทธทาสภิกษุ” ที่มีคำสอนและการปฏิบัติที่ดีงาม เมื่อได้อ่านและปฏิบัติตามคำสอนของท่าน ก็ทำให้ผู้สูงอายุและคนทั่วไปที่สนใจธรรมะของท่านไม่จำเป็นต้องเดินทางไปที่สวนโมกข์ จ.สุราษฎร์ธานี เพียงแค่หยิบหนังสือขึ้นมาอ่าน นอกจากนี้ หนังสือธรรมะของท่านพุทธทาสภิกขุยังมี “บทกลอนสอนใจ” ที่ไม่เพียงช่วยกล่อมเกลาความคิด แต่ช่วยเปลี่ยนมุมมองของผู้ที่มีบุคลิกนิ่งเงียบให้เป็นผู้ที่มีกำลังใจ หรือเป็นการจุดประกายความคิดในการเปลี่ยนแปลงชีวิตตัวเองไปในทางที่ดีขึ้น โดยส่วนตัวของพี่เอง เมื่อได้อ่านหนังสือของท่านพุทธทาสภิกขุ ก็จะรู้สึกเพลิดเพลินและมีความสุขกับประโยคคำพูดที่ท่านเขียน หรือแม้แต่ “หนังสือคู่มือไอที” ที่สอนเกี่ยวกับเล่นไลน์และเฟซบุ๊ก หรือการท่องโลกออนไลน์สำหรับคนเกษียณที่มีเวลาว่าง ก็สามารถหามาอ่านได้ รวมถึงนิตยสารเพื่อสุขภาพอย่าง “นิตยสารชีวจิต” ที่ให้ความรู้เกี่ยวกับวิถีชีวิตการกินอยู่ถูกวิธีเพื่อป้องกันโรค ซึ่งก็ถือเป็นการอ่านที่เป็นคู่มือในการดูแลสุขภาพของคนวัยหนุ่มสาวและผู้สูงอายุได้ดีเช่นเดียวกัน

ส่วนวิธีการอ่านหนังสือให้ถูกสุขลักษณะกับผู้สูงวัย 1.แสงสว่างต้องเหมาะสม ไม่มืดหรือสว่างจ้าจนเกินไป เพราะจะทำให้เสียสมาธิได้ 2.ท่านั่งหรือนอนอ่านก็ต้องเหมาะสม โดยเฉพาะการนั่งหลังโก่งอ่านหนังสือ อาจทำให้ปวดเมื่อยจากการอ่านได้ ดังนั้นจึงควรนั่งหลังตรง และเลือกเก้าอี้ที่เสริมบุคลิกภาพที่ไม่แข็งหรืออ่อนจนเกินไป รวมถึงต้องหาแว่นที่เหมาะกับสายตาของแต่ละคนได้ เพราะการอ่านหนังสือที่ดีต้องคำนึงถึงสุขภาพเช่นกันค่ะ

“อ่านหนังสือ” มันดีอย่างนี้นี่เอง ได้ทั้งช่วยลดหย่อนภาษี แถมได้ความรู้ตามทันโลกกว้างอีก...เสาร์-อาทิตย์นี้ คุณลุงคุณป้าอย่าลืมจูงมือลูกหลานไปเดินช็อปปิ้งหนังสือน่าอ่านมาติดบ้านไว้สักเล่ม 2 เล่ม ว่าไหมค่ะ...

19 December 2561

ที่มา ไทยโพสต์

Posted By Nitayaporn/Bungon/Thongpet/Kanchana

Views, 641

 

Preset Colors