02 149 5555 ถึง 60

 

ย้ำ “กัญชา” ทางการแพทย์ ต้องใช้ให้ถูกโดส เหตุมีผลข้างเคียง รอความเห็นผู้เชี่ยวชาญใช้รักษาสุขภาพจิต

ย้ำ “กัญชา” ทางการแพทย์ ต้องใช้ให้ถูกโดส เหตุมีผลข้างเคียง รอความเห็นผู้เชี่ยวชาญใช้รักษาสุขภาพจิต

คณะทำงานกัญชาทางการแพทย์ฯ พร้อมรับฟังทุกความเห็น ย้ำสารสกัด "กัญชา" ต้องใช้ปริมาณและขนาดตามหลักวิชาการ จึงจะรักษาโรคได้ มีความปลอดภัย คุณภาพชีวิตผู้ป่วยดีขึ้น น้ำมันกัญชายังไม่มีข้อมูลใช้รักษามะเร็งได้ ต้องศึกษาเพิ่มเติม ส่วนใช้เพื่อรักษาด้านสุขภาพจิต รอผู้เชี่ยวชาญให้ความเห็นก่อนสรุป

วันนี้ (1 ส.ค.) นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ ในฐานะประธานคณะทำงานเพื่อพิจารณากัญชามาใช้ทางการแพทย์แผนไทยและแพทย์แผนปัจจุบัน กล่าวถึงการนำกัญชามาใช้ทางการแพทย์ในโรคต่างๆ ว่า สารสกัดจากกัญชาในสัดส่วนและปริมาณที่เหมาะสมสามารถนำมาใช้รักษาโรคได้ ซึ่งในหลายประเทศใช้สารสกัดกัญชาในทางการแพทย์อย่างถูกกฎหมาย โดยโรคที่มีหลักฐานทางวิชาการวิจัยสนับสนุนชัดเจนว่ากัญชามีประโยชน์ในการรักษา ได้แก่ ผู้ป่วยมะเร็งที่ได้รับเคมีบำบัดแล้วคลื่นไส้อาเจียน โรคลมชักในเด็กที่รักษายากหรือลมชักที่ดื้อต่อการรักษาด้วยวิธีต่างๆ และผู้ป่วยโรคปลอกประสาทเสื่อมแข็งที่มีภาวะกล้ามเนื้อหดเกร็ง นอกจากนี้ ผู้ป่วยที่มีอาการปวดเส้นประสาทที่รักษาด้วยวิธีการต่างๆ แล้วไม่ได้ผล สารสกัดจากกัญชาอาจจะช่วยบรรเทาอาการปวดของผู้ป่วยลงได้ แต่การนำมาใช้ต้องอยู่ภายใต้ดุลพินิจของแพทย์และเงื่อนไขผู้ป่วยเป็นกรณีไป เพราะกัญชาเป็นยาเสพติดที่ออกฤทธิ์แบบผสมผสาน ทั้งกระตุ้นประสาท กดประสาท และหลอนประสาท

“ในสารสกัดของกัญชามีสาร Tetrahydrocannabino (THC) ที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและระบบประสาท เมื่อเสพกัญชาสาร THC จะถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดและสมองอย่างรวดเร็ว อาจทำให้เกิดโทษและอาการไม่พึงประสงค์ได้ โดยอาการพบได้บ่อย ได้แก่ ซึมเศร้า สับสน ประสาทหลอน กระสับกระส่าย ตื่นเต้น เวียนศีรษะ ปากแห้ง เป็นต้น สิ่งสำคัญของการนำกัญชามาใช้ทางการแพทย์ คือ การคำนึงถึงประโยชน์ต่อผู้ป่วยเป็นหลัก และอาการไม่พึงประสงค์ต้องเป็นที่ยอมรับได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนำกัญชามาใช้ในเด็กต้องใช้อย่างระมัดระวังมากเป็นพิเศษ เนื่องจากอาจส่งผลต่อการพัฒนาทางสมองของเด็ก” นพ.สมศักดิ์ กล่าว

นพ.สมศักดิ์ กล่าวว่า สารสกัดกัญชา ขนาด และปริมาณที่ใช้ต้องถูกต้องตามข้อมูลวิชาการสนับสนุน มีความปลอดภัย สามารถลดอาการเจ็บป่วยเพื่อให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดี ซึ่งในอนาคตหากประเทศไทยสามารถปลูกกัญชาเพื่อนำมาใช้ทางการแพทย์ได้โดยไม่ขัดต่อกฎหมาย จะสามารถลดค่าใช้จ่ายในการนำเข้ายาที่เป็นสารสกัดหรือสารสังเคราะห์กัญชาจากต่างประเทศลงได้ รวมถึงยาอื่นๆ ที่สามารถใช้กัญชารักษาแทนได้เช่นกัน สำหรับกรณีกัญชาหรือน้ำมันกัญชาใช้ได้ดีในการรักษามะเร็ง ปัจจุบันยังไม่มีข้อมูลทางวิชาการที่น่าเชื่อถือเพียงพอสนับสนุนประเด็นดังกล่าว ดังนั้น จึงถือเป็นโอกาสที่จะส่งเสริมให้หน่วยงานต่างๆ ได้ทำการศึกษาวิจัยในการนำสารสกัดจากกัญชามาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ในประเด็นของมะเร็งและโรคอื่นๆ ต่อไป สำหรับประเด็นการนำกัญชามาใช้รักษาปัญหาด้านสุขภาพจิต อาทิ สมองเสื่อม ซึมเศร้า โรควิตกกังวล ขณะนี้ขั้นตอนอยู่ระหว่างรอรับฟังความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านสุขภาพจิต ซึ่งการดำเนินการทั้งหมดนี้เพื่อให้ผู้ป่วยได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ทั้งนี้ คณะทำงานเพื่อพิจารณากัญชามาใช้ทางการแพทย์ยินดีรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน เพื่อการดำเนินการให้ผู้ป่วยได้รับประโยชน์จากการรักษาด้วยกัญชาอย่างแท้จริง

2 August 2561

ที่มา ผู้จัดการ ออนไลน์

Posted By Nitayaporn/Bungon/Thongpet/Kanchana

Views, 979

 

Preset Colors