02 149 5555 ถึง 60

 

กรมสุขภาพจิตแนะ 4 วิธีติดเบรกคุมอารมณ์ 5 เทคนิคจัดการความโกรธ

กรมสุขภาพจิตแนะ 4 วิธีติดเบรกคุมอารมณ์ 5 เทคนิคจัดการความโกรธ

เผยแพร่: 24 พ.ค. 2561 08:28: โดย: MGR Online

นาวาอากาศตรีนายแพทย์บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า ขณะนี้พบว่าสื่อโซเซียลมีการเผยแพร่คลิปการทะเลาะวิวาทกันบ่อยๆ ซึ่งอารมณ์โกรธนี้เป็นเรื่องปกติที่พบได้ในคนทั่วไป มักจะเกิดขึ้นเมื่อเราตกเป็นฝ่ายถูกกระทำ เช่น ถูกตำหนิ ถูกนินทา ถูกโกง ถูกคนอื่นขับรถปาดหน้า หรือถูกเอาเปรียบ เป็นต้น หากไม่สามารถควบคุมได้ จะกลายเป็นพลังทำลาย ทำอะไรหุนหันพลันแล่น การตัดสินใจผิดพลาดง่าย นำไปสู่ปัญหาต่างๆ ทั้งความสัมพันธ์ส่วนบุคคล ปัญหาที่ทำงาน ประสิทธิภาพการทำงานลดลง ความโกรธจะนำไปสู่การเพิ่มความเครียด และในทำนองเดียวกัน ความเครียดมักจะทำให้มีความโกรธเพิ่มมากขึ้น และอาจมีผลกระทบทางกาย โดยขณะที่เราเกิดอารมณ์โกรธ ต่อมแอดรีนัลของร่างกายจะขับสารคัดหลั่งชื่อแอดรีนาลินออกมาสู่กระแสโลหิต สารนี้จะกระตุ้นประสาทอัตโนมัติ ทำให้หัวใจเต้นเร็วขึ้น ความดันโลหิตเพิ่มขึ้น หากเกิดในผู้ที่มีปัญหาความดันโลหิตสูงอยู่เดิม อาจเพิ่มความเสี่ยงอันตราย อาจทำให้เส้นเลือดในสมองตีบหรือแตก เป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต ได้ด้วยเช่นกัน

อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า ประชาชนทุกคนควรฝึกการติดเบรกเพื่อควบคุมอารมณ์และจัดการกับความโกรธของตัวเองให้ได้ เพื่อป้องกันไม่ให้เรื่องเล็กกลายเป็นเรื่องใหญ่ โดยใช้วิธีฝึกการถามใจตัวเองในเบื้องต้น 4 ข้อ ได้แก่ 1. มองและคิดไปให้ไกล ถามตัวเองว่าเรื่องที่โกรธอยู่นี้สำคัญต่อตัวเราเองมากน้อยแค่ไหน 2. ให้ถามตัวเองว่าถ้าเราตอบโต้อะไรลงไปทันทีตามความโกรธ จะเกิดอะไรขึ้น ได้แค่สะใจชั่วคราวแต่ต้องเสียใจ เสียชื่อ ไปตลอดชีวิตหรือไม่ 3. ให้ลองถามตัวเองว่า เราได้เคยทำสิ่งเดียวกับที่คนอื่นทำกับเราในวันนี้หรือไม่ และเราเองก็ไม่รู้ตัวว่าทำให้คนอื่นโกรธเช่นกัน และ 4. ลองถามตัวเองว่า เพราะเหตุใดคนอื่นจึงทำเช่นนี้กับเรา ให้ลองคิดแบบมีเหตุมีผลว่าเขาอาจมีความจำเป็นจึงทำเช่นนั้น การถามตัวเองจะช่วยประวิงเวลา ทบทวนตัวเอง ทำให้ใจเย็นลง ตั้งสติได้ ไม่หุนหันพลันแล่น และมองเห็นปัญหานั้นเล็กลง ผลลัพธ์สุดท้ายที่ได้จากการถามใจตัวเอง คือการให้อภัย การปล่อยวาง และทุกอย่างจะผ่านไปด้วยดี

ทางด้าน ดร.สุดา วงศ์สวัสดิ์ ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมและพัฒนาสุขภาพจิต กรมสุขภาพจิต กล่าวว่า เมื่อมีความโกรธเกิดขึ้น ขอแนะนำให้ประชาชนใช้วิธีจัดการกับความโกรธ โดยเบี่ยงเบนความสนใจออกไปจากเหตุการณ์ที่ทำให้โกรธ แบบง่ายๆ 5 วิธี คือ 1. พยายามนับ 1 - 10 ในใจ ก่อนจะพูดอะไรออกไปขณะโกรธ จะช่วยลดความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นจากการกระทำในขณะกำลังโกรธได้ 2. ลองนับ 1 - 10 รูปแบบใหม่ ซี่งจะทำให้ควบคุมความโกรธได้ดีขึ้น โดยนับพร้อมกับสูดลมหายใจเข้า - ออกทางช่องท้อง ลึกๆ ช้าๆ ระหว่างเลขแต่ละจำนวน วิธีนี้จะช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย เนื่องจากสมองได้รับออกซิเจนเพิ่มขึ้น 3. ให้นับ 1 - 10 พร้อมกับนึกถึงสิ่งของที่ตัวเองชื่นชอบ หรือนึกถึงสิ่งทำให้อารมณ์ดี เช่น ไอศกรีม 1 แท่ง 2 แท่ง 3 แท่ง จะทำให้จิตใจผ่อนคลายลงและเกิดความรู้สึกที่ดีแทนที่อารมณ์โกรธ 4. ใช้วิธีนับเลขถอยหลังจาก 100 จนถึง 80 การใช้สมาธิจดจ่อกับการนับ ทำให้หยุดคิดถึงเรื่องที่กำลังโกรธได้ และ 5. ให้ลองหลับตานึกถึงเหตุการณ์หรือสิ่งใดๆในอดีตที่ได้พบเจอแล้วมีความสุขใจ สบายใจ คลายเครียด เช่น การท่องเที่ยวในที่ต่างๆ เดินเที่ยวที่วัด จะช่วยทำให้ความโกรธลดลงได้

ขณะเดียวกัน สิ่งที่ไม่ควรทำขณะที่รู้สึกว่าตนเองโกรธจนควบคุมตัวเองได้ยาก ได้แก่ 1. ไม่ควรโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวระบายอารมณ์ขณะยังมีความโกรธรุนแรง เพราะจะทำให้ขาดความยับยั้งชั่งใจ ขาดสติเผลอตัวเขียนระบายอารมณ์ในสิ่งที่ไม่สมควร และต้องมานึกเสียใจภายหลังที่แก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว 2. ห้ามขับรถ เพราะอารมณ์โกรธจะทำให้เราหุนหันพลันแล่น ขาดสติ 3. ไม่ระบายอารมณ์ด้วยการดื่มเหล้า 4. หลีกเลี่ยงการทะเลาะเพราะจะลุกลามใหญ่โตได้ง่าย เนื่องจากการควบคุมตนเองไม่ได้ 5. ห้ามคิดหมกมุ่นอยู่กับคนหรือเรื่องที่ทำให้โกรธ เนื่องจากจะทำให้ความรู้สึกโกรธเพิ่มมากขึ้น และอาจทำให้เกิดความรุนแรงได้

25 May 2561

ที่มา ผู้จัดการ ออนไลน์

Posted By STY_Lib

Views, 930

 

Preset Colors