02 149 5555 ถึง 60

 

สุขภาพ แรงงาน แย่ ทั้งอ้วน สูบบุหรี่ ดื่มเหล้า เครียดสูง แนะ 10 วิธีสร้างสุขการทำงาน

สุขภาพ แรงงาน แย่ ทั้งอ้วน สูบบุหรี่ ดื่มเหล้า เครียดสูง แนะ 10 วิธีสร้างสุขการทำงาน

สุขภาพ "แรงงาน" ย่ำแย่ พบอ้วน กินผักและผลไม้ไม่เพียงพอ สูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ กิจกรรมทางกายไม่เพียงพอ มีปัญหาเหงือกและฟัน เกิดความเครียดสูง เผย 3 ปี วัยทำงานโทร.ปรึกษาสายด่วนสุขภาพจิตสูงอันดับ 1 แนะวิธีดูแลสุขภาพกาย 10 เทคนิคสร้างสุขการทำงาน ช่วยเพิ่มผลผลิตได้ 20%

นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ประชากรวัยทำงานที่เป็นกำลังสำคัญของประเทศ การพัฒนาคุณภาพชีวิตทั้งด้านการศึกษาและสุขภาพ มีผลต่อการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมของประเทศ เนื่องจากประชากรวัยทำงานส่วนใหญ่ใช้เวลาอยู่ในที่ทำงานไม่น้อยกว่า 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ดังนั้น สุขภาพที่ดีของคนกลุ่มนี้จึงเป็น เรื่องสำคัญ เพราะเมื่อพนักงานมีสุขภาพดี มีความสุขกาย และสบายใจ ทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพ อันจะส่งผลดีต่อสถานประกอบการและเศรษฐกิจของประเทศตามมาด้วย แต่จากการสำรวจสถานการณ์สุขภาพกลุ่มวัยทำงานจากแหล่งที่เกี่ยวข้อง พบว่า

มีภาวะอ้วน ร้อยละ 37.5 กินผักและผลไม้ไม่เพียงพอตามข้อแนะนำ ร้อยละ 74.1 มีกิจกรรมทางกายไม่เพียงพอ ร้อยละ 57.4 สูบบุหรี่ ร้อยละ 19.5 ดื่มแอลกอฮอล์ ร้อยละ 38.9 ปัญหาสุขภาพช่องปากที่พบในคนวัยทำงานพบว่าร้อยละ 91.8 มีประสบการณ์การเกิดโรคฟันผุ พบเหงือกอักเสบ ร้อยละ 62.4 และเป็นโรคปริทันต์ ร้อยละ 25.9 ซึ่งส่วนมากเป็นผลมาจากการทำงานตลอดทั้งวัน ส่งผลให้เกิดความเครียด เหนื่อยล้า จึงทำให้มองข้ามการใส่ใจดูแลสุขภาพของตนเอง ทั้งๆที่สามารถดูแลสุขภาพของตนเองได้ง่ายๆ ไม่ว่าจะเป็นการเริ่มต้นจากการรับประทานอาหารให้เหมาะสม และเพิ่มกิจกรรมทางกายในระหว่างวันให้มากขึ้น

“เพื่อการมีสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดี ควรรับประทานอาหารให้ตรงเวลา มีความหลากหลายครบ 5 หมู่ ลดหวาน มัน เค็ม งดอาหารทอดหรือผัด เพิ่มผัก ผลไม้ ในแต่ละวันรับประทานน้ำตาลไม่เกิน 4-6 ช้อนชา เกลือน้อยกว่า 1 ช้อนชา ผัก 4-6 ทัพพี ผลไม้สดรสไม่หวาน ประมาณ 15 คำ โดยเฉพาะมื้อเช้าเป็นมื้อสำคัญ ถ้าเลี่ยงมื้อนี้ไป ร่างกายจะเกิดภาวะขาดน้ำตาล ส่งผลให้สมองไม่ปลอดโปร่ง เกิดความวิตกกังวล ใจสั่น อ่อนเพลีย หงุดหงิด โมโหง่าย และงดกินจุบจิบระหว่างการทำงาน นอกจากนี้ ควรออกกำลังกายระดับปานกลางวันละ 30-60 นาที อย่างน้อย 5 วัน ต่อสัปดาห์ เพื่อลดน้ำหนักและรอบพุงและควรทำกิจกรรมเคลื่อนไหวในที่ทำงาน เช่น บริหารร่างกาย ยืดเหยียดกล้ามเนื้อ แขน ขา คอ ประมาณ 5 นาที 2 ครั้งต่อวัน เดินขึ้นบันไดแทนการใช้ลิฟต์ ขี่จักรยานหรือเดินไปทำงาน เป็นต้น และรู้จักจัดการกับความเครียดโดยหางานอดิเรกทำ เช่น ปลูกต้นไม้ อ่านหนังสือ นั่งสมาธิ มองโลกในแง่ดีและคิดบวก หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่ ซึ่งเป็นการช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เช่น โรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน หัวใจและหลอดเลือด รวมถึงโรคอ้วน ให้ลดน้อยลงได้” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว

น.ต.นพ.บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า วัยทำงานนี้เป็นกลุ่มเสี่ยงเกิดความเครียด ทั้งจากการทำงาน ครอบครัว เศรษฐกิจ ซึ่งเป็นต้นตอสำคัญทำให้เกิดการเจ็บป่วยโรคทางกาย เช่นโรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง และปัญหาติดสุรา ใช้สารเสพติด การใช้ความรุนแรงในครอบครัว เป็นต้น จากข้อมูลสายด่วนสุขภาพจิต 1323 ที่ให้บริการปรึกษาปัญหาฟรีตลอด 24 ชั่วโมง ในรอบ 3 ปี ตั้งแต่ พ.ศ. 2558-2560 พบว่าผู้ใช้บริการมากที่สุดคือกลุ่มวัยทำงาน อายุ 22-59 ปี จำนวน 105,967 ครั้ง คิดเป็นร้อยละ 62 ของผู้ใช้บริการทั้งหมด169,728 ครั้ง อันดับ 1 ร้อยละ 36 คือเรื่องการกินยารักษาอาการป่วยทางจิตใจ ,อันดับ 2 ร้อยละ 28 คือความเครียดหรือวิตกกังวล เช่นกังวลเกี่ยวกับอนาคต เรื่องคนอื่น เรื่องทั่วๆไป , อันดับ 3 ร้อยละ 10 เรื่องปัญหาสารเสพติด

น.ต.นพ.บุญเรือง กล่าวว่า ในการส่งเสริมให้วัยทำงานมีความสุขทั้งการทำงานและชีวิตครอบครัว กรมสุขภาพจิตได้บูรณาการทำงานร่วมกันหน่วยงานในกระทรวงสาธารณสุขในโครงการ “วัยทำงานปลอดโรค ปลอดภัย กายใจเป็นสุข” ดูแลวัยแรงงานครอบคลุมทั้งสุขภาพกาย ใจ ความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อม ซึ่งมีผลการศึกษา พบว่าการสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลาย จะช่วยส่งเสริมให้วัยแรงงานมีความสุข นำไปสู่การเพิ่มผลผลิต และประสิทธิภาพในการทำงานได้ถึงร้อยละ 12-20 ส่งผลให้เกิดความผูกพันต่อองค์กร ที่ผ่านมามีสถานประกอบการสมัครเข้าร่วมโครงการแล้วเกือบ 3,000 แห่ง ในปีนี้ จะขยายความร่วมมือกับ กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน สำนักงานประกันสังคม และกรมควบคุมโรค โดยจะลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมมือ (MOU) ในเดือนนี้ ได้มอบหมายให้สำนักส่งเสริมสุขภาพจิตเป็นหน่วยงานหลักดำเนินการ

นางสุดา วงศ์สวัสดิ์ ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมสุขภาพจิต กล่าวว่า ประชาชน สามารถสร้างความสุขง่ายๆรายวันให้แก่ตนเองในการทำงาน มีข้อแนะนำ 10 ประการดังนี้ 1. ทบทวนถึงสิ่งดีๆ ที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน ชื่นชมข้อดีของตนเองและผู้อื่น พร้อมเริ่มต้นวันใหม่ด้วยความสุข 2. มีอารมณ์ขันและส่งยิ้มให้กันอยู่เสมอ 3. กล่าวคำขอบคุณให้เป็นนิสัย และขอโทษเมื่อทำผิด 4. ตั้งเป้าหมายถึงสิ่งที่จะทำให้ชีวิตมีความสุข และลงมือทำให้สำเร็จ 5. หยุดคิดเล็กคิดน้อย ยอมรับข้อบกพร่องของผู้อื่น 6. จัดสรรเวลาให้สมดุล ตามหลัก 8-8-8 คือทำงาน 8 ชั่วโมง เวลาที่เหลืออีก 2 ส่วนคือการนอนหลับและให้เวลากับครอบครัว

7. ใส่ใจสุขภาพ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยวันละ 30 นาที สัปดาห์ละ 3-5 วัน ช่วยคลายความเครียด นอนหลับดีขึ้น หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ ดื่มสุราและสารเสพติด 8. ออฟไลน์ออกจากโลกโซเชียล แล้วหันมาพูดคุย ทำกิจกรรมต่างๆร่วมกับคนใกล้ชิดและคนรอบข้าง 9. ทำงานอดิเรกที่ชอบหรือทดลองทำอะไรใหม่ๆ และ 10. ยึดหลักความพอเพียงในการดำเนินชีวิต พอใจในสิ่งที่ตัวเองมี ผลวิจัยยืนยันว่าคนทำงานที่มีความสุขจะเพิ่มผลผลิตมากกว่าคนทำงานที่ไม่มีความสุขถึงร้อยละ 20

2 May 2561

ที่มา ผู้จัดการ ออนไลน์

Posted By sty_lib

Views, 2018

 

Preset Colors