ข่าวแจกกรมสุขภาพจิตเกี่ยวกับสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)

เรื่อง : กรมสุขภาพจิต สานต่อความห่วงใยสุขภาพจิตประชาชนของนายกรัฐมนตรี ผุด Website และ Line Official Account

เปิดอ่าน: 657

วันที่: 10 February 2565

กรมสุขภาพจิต สานต่อความห่วงใยสุขภาพจิตประชาชนของนายกรัฐมนตรี ผุด Website และ Line Official Account พร้อมเชิญชวนประชาชนประเมินสภาวะจิตใจและดูแลตนเองให้เข้มแข็ง วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2565 กรมสุขภาพจิตเร่งขับเคลื่อนงานเชิงรุกตามข้อห่วงใยของนายกรัฐมนตรี โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข มีนโยบายให้ติดตามสถานการณ์ความเครียดของประชาชนอย่างใกล้ชิดพร้อมสนับสนุนการดำเนินงานประเมินความเครียดผ่านช่องทาง www.วัดใจ.com และทาง line @1323forthai เพิ่มเติมจากสายด่วน 1323 แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า กรมสุขภาพจิตมีหน้าที่สำคัญในการช่วยเหลือและส่งเสริมสุขภาพจิตของคนไทยทุกคนในสังคม และสามารถปรับรูปแบบการดูแลสุขภาพจิตของคนไทยในแต่ละกลุ่มได้อย่างเหมาะสม เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่าตอนนี้ประชากรทั่วโลกต่างประสบปัญหาความเครียด โดยการสำรวจความเครียดในระดับโลกของ The World Stress Index พบว่า ในปี 2021-2022 ประเทศในยุโรปมีระดับความเครียดจะอยู่ที่ระดับ 50 – 60% ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าวเป็นช่วงที่ทั่วโลกกำลังเผชิญหน้าในสถานการณ์โควิด 19 ซึ่งในส่วนของประเทศไทยนั้นก็มีการวัดระดับอารมณ์ผ่านทาง www.วัดใจ.com โดยผลในช่วงเดือนสิงหาคม 2564 ที่ผ่านมานั้นถือเป็นช่วงที่ประชาชนมีความเสี่ยงด้านสุขภาพจิตสูงสุดตั้งแต่เริ่มเก็บสถิติ โดยมีภาวะเครียดสูง 45.5% เสี่ยงซึมเศร้า 51.5% เสี่ยงฆ่าตัวตาย 30.6% และมีภาวะหมดไฟ 17.6% และเริ่มมีสถานการณ์ที่ดีมากขึ้นในปัจจุบัน ซึ่งผลจากการประเมินในช่วง 1 มกราคม ถึง 10 กุมภาพันธ์ 2565 พบภาวะเครียดสูง 6.04% เสี่ยงซึมเศร้า 7.31% เสี่ยงฆ่าตัวตาย 4.09% และมีภาวะหมดไฟ 4.4% ซึ่งแสดงให้เห็นว่าแม้จะอยู่ภาวะที่มีความเครียดและความเปลี่ยนแปลงในการดำรงชีวิต แต่คนไทยยังสามารถที่จะรับมือและสร้างเกราะคุ้มกันให้ตนเองเพื่อก้าวข้ามสถานการณ์นี้ไปได้ แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวต่อไปว่า การสำรวจด้านสุขภาพจิตนั้นมีความสำคัญอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากประชาชนสามารถวัดใจตัวเองได้อย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ ทั้งนี้กรมสุขภาพจิตวางแผนจะส่งเสริมการวัดใจให้เป็นส่วนหนึ่งในระบบการดูแลพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ ร่วมกับระบบสามหมอที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน คอยสนับสนุนการวัดใจตัวเองเป็นระยะ ก็จะทำให้สามารถเข้าถึงบริการด้านสุขภาพจิตได้อย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ประชาชนสามารถ“วัดใจ”ตัวเองได้ ผ่านช่องทางhttps://checkin.dmh.go.th ซึ่งจะมีการประเมินผลวัดใจ มีคำแนะนำการดูแลที่เหมาะสมเบื้องต้น และสามารถให้บุคลากรกรมสุขภาพจิตติดต่อกลับได้เพื่อดูแลต่อเนื่องระยะยาว ที่ผ่านมาเมื่อกรมสุขภาพจิตทำการสำรวจแล้ว จึงสามารถให้ความช่วยเหลือ ในรูปแบบต่าง ๆ ได้ เช่น การจัดการความเครียด/อารมณ์ สุขภาพจิตศึกษา การให้คำปรึกษารายบุคคล/ครอบครัว การส่งต่อพบแพทย์รักษา รวมไปถึงการประสานแหล่งสนับสนุนทางสังคมอื่นๆ ร่วมด้วย นอกจากนี้ ยังมีการประสานเครือข่ายและองค์กรต่างๆ เช่น สถานประกอบการ สถานศึกษา และชุมชนในการจัดให้มีระบบการดูแลจิตใจให้ทั่วถึง กรมสุขภาพจิตขอให้พี่น้องประชาชน ให้ความสำคัญกับการประเมินสุขภาพจิตตัวเองให้เป็นกิจวัตรหนึ่งในแต่ละวัน จะนำเรื่องสุขภาพจิตไปสู่ประชาชนทุกคน ประสานความร่วมมือผ่านกลไกสามหมอ ขอช่วยวัดใจประชาชน รวมถึงทุก รพสต และโรงพยาบาลช่วยกันวัดใจประชาชนและตนเองด้วย หากพบว่าท่านรู้สึกเบื่อหน่าย ท้อแท้ หรือมีความคิดอยากทำร้ายตัวเอง สามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญได้ที่สายด่วนสุขภาพจิต 1323 หรือทาง line @1323forthai ได้ตลอด 24 ชั่วโมง การดำเนินงานในครั้งนี้จะเป็นสร้างบรรยากาศความรักและห่วงใยในสังคม และจะมีการติดตามผลลัพธ์อย่างใกล้ชิดเพื่อพัฒนาระบบบริการสุขภาพจิตให้ตรงต่อความต้องการและสถานการณ์ที่ประชาชนชาวไทยกำลังเผชิญให้ทันท่วงที